วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ซ้อม2ริ้วขบวน
เชิญพระสุพรรณบัฏ-ราบใหญ่
พิธีบรมราชาภิเษกร.10
ส่งมอบคนโทน้ำอภิเษก
อนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซ้อมรวมริ้วขบวนที่ 1 และ ริ้วขบวนที่ 2 ซึ่งเป็นริ้วขบวนอัญเชิญพระสุพรรณบัฏฯ และริ้วขบวนราบใหญ่ โดยจำลองเส้นทางพื้นที่เสมือนจริง เพื่อความสมบูรณ์งดงามสมพระเกียรติ ขณะที่มหาดไทยเริ่มส่งมอบคนโทน้ำอภิเษกที่ใช้ในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 107 แหล่งทั่วประเทศ ให้จังหวัดต่างๆ ก่อนเริ่มพิธี 6 เม.ย.
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 26 มีนาคม คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 จัดฝึกซ้อมรวมริ้วขบวนที่ 1 ซึ่งเป็นริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพและพระราชลัญจกร และริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯทรงประกาศเป็นพุทธศาสนูปถัมภก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นครั้งแรก ณ ลานอเนกประสงค์ ภายในกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่ 11 โดยมีกำลังพลจากหน่วยราชการในพระองค์ หน่วยเฉพาะกิจกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ตลอดจนหน่วยงานในกองทัพบก เหล่าทัพ นอกจากนี้ ยังมีกองทหารเกียรติยศ จากหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ร่วมฝึกซ้อมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกซ้อมวันนี้เป็นการฝึกซ้อม 2 ริ้วขบวน ประกอบด้วย ริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนอัญเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพและพระราชลัญจกร โดยพระราชยานกง จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ไปยัง พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. รวมระยะทางเดิน 220 เมตร
ริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่ ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จขึ้นประทับบนพระราชยานพุดตานทอง ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิที่ปราสาทพระเทพบิดร จากเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ภายในพระบรมมหาราชวัง ไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ระยะทางเดิน 220 เมตร และจากเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปยัง เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ระยะทางเดิน 245 เมตร ใช้กำลังพล 343 นาย ในวันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 16.00 น. โดยทั้ง 2 ริ้วขบวนเป็นริ้วขบวนที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง จังหวะการเดินจึงใช้ตามเสียงกลองใหญ่เป็นหลัก
สำหรับการซ้อมริ้วขบวนในวันนี้ เป็นการจำลองพื้นที่จริง โดยจำลองประตูพิมานไชยศรี จากเกยหน้าพระทวารเทเวศรักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และจากเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ทิศทางเหมือนจริง โดยย่อส่วนระยะทาง และด้วยประตูพิมานไชยศรีมีขนาดกว้าง จึงไม่กำหนดจุดอุปสรรคในการฝึกซ้อม สำหรับรูปแบบริ้วขบวนที่ 1 และริ้วขบวนที่ 2 มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ประกอบด้วยส่วนนำริ้ว ส่วนพระราชยาน เครื่องสูงหักทองขวางหน้าและหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศครั้งนี้ เป็นการซ้อมใหญ่รวม 2 ริ้วขบวนเป็นครั้งแรก เพื่อให้กำลังพลคุ้นเคยกับเส้นทาง รวมทั้งยังปรับรูปขบวนบริเวณจุดคับแคบต่างๆให้คงความงดงามสมพระเกียรติ โดยมีกำหนดการฝึกซ้อมใหญ่รวมริ้วที่ 1,2 และริ้วขบวนที่ 3 ซึ่งเป็นริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค เลียบพระนคร โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและร่วมฝึกซ้อม นอกจากนี้ ยังมีจิตอาสาเฝ้าฯรับเสด็จประมาณ 2,000 นาย ร่วมฝึกซ้อมด้วย ในวันที่ 28 มีนาคม
จากนั้นวันที่ 17, 21 และ 28 เมษายน จะมีการฝึกซ้อมทั้ง 3 ริ้วขบวนแบบเสมือนจริง ในพื้นที่จริง โดยช่วงเช้าจะฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 1 และ 2 ส่วนช่วงบ่าย จะฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 3 และตลอดทั้ง 3 วันจะนำยุทธภัณฑ์ ซึ่งสำนักพระราชวังได้ซ่อมบูรณะสำหรับใช้ในพระราชพิธี อาทิ พระแสงกระบี่หัวคชสีห์, กระบี่และหอกประกอบเครื่องแบบกรมพระตำรวจหลวง และทวนสำนักพระราชวัง มาร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยความคืบหน้าการเตรียมพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า ขณะนี้เตรียมในส่วนเส้นทางการเชิญน้ำ จากกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร และต่อไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยกระทรวงมหาดไทยช่วยกรุงเทพมหานคร(กทม.) ทำเครื่องหมายในการเชิญน้ำเรียบร้อยแล้ว และระหว่างช่วงเดือนมีนาคมจัดการปรับภูมิทัศน์ เตรียมสถานที่ พร้อมกับซักซ้อมผู้ปฏิบัติ ขณะนี้ทั่วประเทศเตรียมความพร้อมทั้งหมดแล้ว การเตรียมพระราชพิธีดังกล่าวมีความพร้อมมาก โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชน ภาคเอกชน และจิตอาสาเป็นอย่างดี
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) ส่งมอบคนโทน้ำอภิเษกและอุปกรณ์ ที่ใช้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อให้ทุกจังหวัดนำไปประกอบพิธีจัดทำน้ำอภิเษก โดยแต่ละจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ พร้อมพาหนะมารับคนโทน้ำอภิเษกจังหวัดละ 1 ใบ ขันน้ำสาครพร้อมที่ตักจำนวนตามแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด เทียนชัย 1 เล่ม เทียนมหามงคล 1 เล่ม และเทียนพุทธาภิเษก 2 เล่ม โดยชุดแรก กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดให้ 40 จังหวัด มารับ รวม 3 วัน คือ วันนี้ จำนวน 14 จังหวัด วันที่ 27 มีนาคม 13 จังหวัด และวันที่ 28 มีนาคมจำนวน 13 จังหวัด จากนั้น จะทยอยให้จังหวัดที่เหลือมารับ ซึ่งทั้งหมดจะเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบให้ข้าราชการลาบรรพชาอุปสมบทโครงการ”บรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” โดยไม่ถือเป็นวันลา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงจักภักดีถวายเป็นพระราชสักการะ แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับเป้าหมาย จะเป็นกลุ่มข้าราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยกำหนดจำนวนผู้ที่จะบรรพชาอุปสมบทไว้ไม่น้อยกว่า 6,810 รูป จะดำเนินการทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยสถานที่ดำเนินการคือวัดทั่วประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด ระยะดำเนินการระหว่างวันที่ 2 - 16 พฤษภาคม รวม 15 วัน ทั้งนี้ บุคลากรที่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการมาแล้ว สามารถลาบรรชาอุปสมบท เพื่อเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ได้อีก
ขณะที่จ.นราธิวาส มีการซักซ้อมความพร้อมพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง โดยช่วงเช้านายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมหัวหน้าส่วนราชการร่วมซักซ้อมความพร้อม ก่อนถึงกำหนดประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์วันที่ 6 เมษายน เพื่อประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจ.นราธิวาสนั้น จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อคลองน้ำแบ่ง หมู่ 3 บ้านกูจำ ต.ไพรวัน อ.ตากใบ ขณะที่ภาคบ่ายนายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จะเป็นประธานพิธีซักซ้อมการตักน้ำจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ บริเวณน้ำตกสิรินธร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา หมู่ 5 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี