ไร้เงา'บิ๊กโจ๊ก'
ปิดทางติดต่อหลังถูกย้าย
ตร.ใกล้ชิดงดใช้เฟซบุ๊ค
ดร.เซปิงปัดเอี่ยวสั่งเด้ง
“บิ๊กโจ๊ก”ไร้ความเคลื่อนไหว หลังถูกคำสั่งเด้งฟ้าผ่า ปิดทุกช่องทางสื่อออนไลน์ แถมนายตำรวจใกล้ชิดก็ปิดเฟซบุ๊ค ด้าน “ดร.เซปิง” เฟซออฟ ปัดไม่เกี่ยวข้องกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ถูกย้ายจากตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 7เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่ 232/2562 ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนอย่างเป็นทางการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ และโซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พบว่าเริ่มมีความเคลื่อนไหวที่มีนัยยะสำคัญ โดยตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “สุรเชษฐ์ หักพาล” ซึ่งมีกลุ่มแอดมิน ทำหน้าที่โพสต์ภาพและข้อความ แชร์ลิงก์นำเสนอผลงานและเรื่องราวส่วนตัวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หรือที่รู้จักกันดี ในนาม “บิ๊กโจ๊ก” มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน ได้ปิดตัวลง
เช่นเดียวกับอินตราแกรมส่วนตัว ที่ปิดตัวลงเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นเพจของหน่วยงาน “สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” กองบัญชาการซึ่งทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้นำหน่วย ในแอคเคานท์ที่โปรโมตนำเสนอผลงานในยุคที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้บัญชาการก็ปิดตัวไปพร้อมกันโดยไม่ระบุสาเหตุ ก่อนจะมีความชัดเจนว่ามีคำสั่งย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.ตร.เผยแพร่ในวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา
มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ TICTAC ที่มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นรอง ผอ.ศูนย์ฯ แต่มีบทบาทมากที่สุด แม้ยังไม่ปิดตัวเช่นเพจอื่นๆ แต่ก็มีความเคลื่อนไหวเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 เมษายน โดยมีการเปลี่ยนภาพปกจากเดิมเป็นภาพ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ประกอบกราฟฟิก เป็นภาพกราฟฟิกหน่วยงานเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ในเว็บไซต์วิกิพิเดีย สารนุกรมเสรี ได้ลบข้อมูลของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ออกไปเช่นกัน
ทั้งนี้ สำหรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นับว่าเป็นผู้บัญชาการที่มีอายุน้อยที่สุด โดยขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ ยศ พล.ต.ท.ในวัยเพียง 48 ปีเท่านั้น
วันเดียวกัน ทาง ดร.เซปิง ไชยศาส์น แห่งโครงการเฟซออฟ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน หลังจากถูกผู้เสียหายที่เข้ารับการทำศัลยกรรมแล้วเสียโฉม แจ้งความดำเนินคดี โดยถูกทีมงานของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ติดตามจับกุมตัวได้ เปิดเผยว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับกรณีการถูกคำสั่งย้ายของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เนื่องจากเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ประกอบอาชีพโดยสุจริต ขอวอนสังคมให้เข้าใจและเห็นใจ เนื่องจากช่วงที่มีข่าวที่ตนถูกกล่าวหานั้น สร้างความเดือดร้อนมากพอแล้ว จึงไม่ขอตอบอะไรมากกว่านี้ ส่วนคดีที่ถูกกล่าวหา ตนก็จะเปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเร็วๆ นี้ ขอให้ติดตามทำข่าวกัน
ขณะที่เฟซบุ๊กหรือโซเชียลมีเดียของบุคคลใกล้ชิด นอกเหนือจากของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่ปิดไปแล้ว ก็ยังพบว่าเฟซบุ๊กของ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม.และเป็นทีมงาน ศปอส.ตร.หรือ “ผู้การโอ๋” ซึ่งถือเป็นนายตำรวจคนสนิทของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่มักจะคอยเดินประกบอยู่ไม่ห่างในการปฏิบัติงานแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะการแถลงข่าวการจับกุมคดีต่างๆ ก็พบว่ามีการปิดเฟซบุ๊กแล้วเช่นเดียวกัน
สำหรับ พล.ต.ต.พนัญชัย นั้น เพิ่งได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายในวาระประจำปี 2561 จากตำแหน่ง รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท.ขึ้นเป็น ผบก.สส.สตม.ในเวลานี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี