สตม.รวบ‘มาม่าซัง’อุซเบกิสถาน หนีหมายแดงค้ามนุษย์ซุกไทย 7 ปี

7 มิ.ย.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.วิญญู อานวยสมบัติ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการจับกุม นางซาโยร่า เมลิโคว่า สัญชาติอุซเบกิสถาน อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาหนีหมายแดงคดีความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.2 บก.สส.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กงสุลอุซเบกิสถาน ประจำประเทศไทย ติดตามสืบสวนจับกุมนางซาโยร่า เมลิโคว่า ได้จากห้องพักแห่งหนึ่งย่าน ถ.พระรามเก้า แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. เนื่องจากตำรวจสากลอุซเบกิสถาน ได้ออกประกาศหมายแดง (Interpol Red notice) ต้องการตัวนางซาโยร่า เมลิโคว่า เพื่อกลับไปดำเนินคดีในประเทศอุซเบกิสถาน ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ , การเป็นธุระจัดหาซึ่งการค้าประเวณีฯ , หน่วงเหนี่ยวกักขัง และองค์กรอาชญากรรม เหตุเกิดที่ เมือง KHOREZM ตอนใต้ของประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อปี 2011 หรือ พ.ศ.2554

ทั้งนี้ เมื่อ พ.ศ.2557 ตำรวจสากลอุเบซกิสถานได้แจ้งหมายแดงมายังตำรวจสากลไทย และ สตม.ได้บันทึกเป็นบุคคลมีหมายแดงตำรวจสากลไว้ในระบบแล้ว ทำให้ นางซาโยร่า เมลิโคว่า ซึ่งเดินทางเข้าออกประเทศไทยตั้งแต่ปี 2009 (2552) จนกระทั่งปี 2015 แล้วหลังจากนั้นได้หลบหนีการจับกุม ไม่พบการเดินทางออกประเทศไทย หรือขออยู่ต่ออีกเลย จนกระทั่งถูกจับกุม รวมอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตมากว่า 7 ปี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ ขณะจับกุมในที่เกิดเหตุ พบหญิงชาวอุซเบกิสถาน 3 คน พักอาศัยรวมอยู่ในห้องดังกล่าว ลักษณะเป็นหญิงลักลอบค้าประเวณีให้กับนักท่องเที่ยว จึงได้เชิญตัวมาสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เบื้องต้นสรุปว่าทั้ง 3 คนสมัครใจเข้ามาในประเทศไทย เพื่อลักลอบค้าประเวณีด้วยตัวเอง ไม่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จึงดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในประเทศทั้ง 3 คน พร้อมควบคุมตัว เพื่อประสานกับ สอท.อุซเบกิสถาน ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป