2 สิงหาคม 2562 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 09.15 น. ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายข้าวแกง ถนนอ่างทอง ม.3 ต.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย ก่อนเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ชุดป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 แพทย์เวรโรงพยาบาลเกาะสมุย และอาสาสมัครมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย
โดยที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว 2 ชั้น อยู่ในแหล่งชุมชน มีร้านขายสินค้า ตลาดสด จึงมีประชาชนเข้ามามุงดูจำนวนมากด้วยความสนใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจไ้ด้กันแนวเขตในที่เกิดเหตุไว้เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา และที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุเป็นพบรถจักรยานยนต์สีแดง หมายเลขทะเบียน คขษ 540 สุราษฎร์ธานี และรถกระบะสีบรอนซ์เงิน 1 คัน จอดอยู่ เจ้าหน้าที่พบปลอกประสุนปืนลูกซอง 3 นัด ซึ่งนัดแรกตกอยู่กับถุงข้าวสารที่วางอยู่ตรงกลางของรถ นัดที่ 2 ตกอยู่ด้านข้างรถ และนัดที่ 3 ตกอยู่ที่พื้นด้านหลังล้อรถกระบะด้านหลังซ้ายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าไปในบ้านพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน นอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นทางเดิน ทราบชื่อว่านายธนพงษ์ บุนมาก อายุ 35 ปี ถูกยิงเข้าที่ศรีษะและแขน และน.ส.สิรินันท์ แสงสว่าง อายุ 44 ปี ในมือข้างขวายังกำฆ้อนไว้ ถูกยิงเข้าที่ศรีษะจนกระโหลกเปิด มันสมองไหลกองกับพื้น
ส่วนผู้ที่เกิดก่อเหตุฆ่าอย่างโหดเหี้ยรายนี้คือ นายริวัฒภูมิฒ์ บุณบารมีพิพัฒ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของร้านเสริมสวยที่อยู่ติดกัน หลังก่อเหตุได้ทิ้งปืนลูกซองยาวของกลางไว้บนโซฟาภายในบ้าน ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ คราบเขม่าดินปืน ดีเอ็นเอ ไว้ประกอบสวนนวนทางคดี
น้องเขย ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ผู้ตายทั้งสองคนพักอาศัยอยู่บ้านหลังนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ตอนแรกขายข้าวแกงอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่มาช่วง 5 ปีหลังได้ย้ายไปขายอาหารที่โรงเรียน และช่วงกลางคืนก็ไปขายอาหารที่บริเวณลานจอดรถบ้านหน้าทอน แต่ที่บ้านหลังนี้จะใช้สำหรับปรุงอาหารเท่านั้น ส่วนเพื่อนบ้านที่ก่อเหตุเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน มาเปิดเป็นร้านเสริมสวย
ผู้ตาย เคยเล่าว่าตั้งแต่เพื่อนบ้านนี้มาอยู่ก็มีปัญหากระทบกระทั้งมาตลอด มีปากเสียงกันเรื่องของกลิ่นอาหาร กลิ่นควัน ผู้ต้องหาเคยแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาล ตำรวจ และทหารมาดู ผู้ตายก็พยายามแก้ไขมาโดยตลอดเพราะไม่อยากมีปัญหากัน โดยล่าสุดได้ติดตั้งบ่อดักไขมัน และติดตั้งปล่องควันดูดกลิ่น แต่เครื่องดูดควันยังไม่มาส่งก็เกิดเหตขึ้นเสียก่อน
ต่อมาภายในวันเดียวกัน เวลา 10.30 น. นายริวัฒภูมิฒ์ ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พร้อมกับรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตจริง เพราะเกิดจากเหตุทะเลาะกันในเรื้องที่ผู้ตายทำอาหารส่งกลิ่นและควันมารบกวนเป็นประจำ ก่อนหน้านี้เคยแจ้งกับผู้ตายไปแล้วและร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่เทศบาล ทหาร ตำรวจ ให้ทราบแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขก็เลยมาก่อเหตุ
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายริวัฒภูมิฒ์ ผู้ต้องหา ว่าฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยมีและใช้อาวุธปืน พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ต้องตรวจสอบว่ามีทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ใครเป็นผู้ครอบครอง และเคยใช้ก่อเหตุอาชญากรรมมาหรือไม่
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาพร้อมกับ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เพื่อมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับนำตัวนายริวัฒภูมิฒ์ ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จุดแรกในบ้านของผู้ต้องหาที่เปิดเป็นร้านเสริมสวย ที่ผู้ต้องหาเก็บอาวุธปืนลูกซองไว้ในครัวหลังบ้าน ก่อนจะเดินมาที่หน้าบ้านของผู้ตาย ยืนข้างรถจักรยานยนต์มีปากเสียงกันและลั่นไกยิง ครั้งแรกยิงไป 2 นัด ก่อนจะคัดปลอกกระสุน ใส่ลูกปืนใหม่อีก 2 นัด มายิงซ้ำไปอีก1 นัด ก่อนจะนำปืนลูกซองที่ก่อเหตุวางไว้บนโซฟาในบ้านและหลบหนีไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย นำศพของนายธนพงษ์ และน.ส.สิรินันท์ สามีภรรยาส่งไปชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลเกาะสมุย ก่อนจะมอบใหญ่ญาติผู้เสียชีวิตมารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามประเพณีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี