เพชร-พลอย เป็นสิ่งคู่กัน แม้ว่าพลอยจะด้อยค่ากว่าก็ตาม แต่การเจียระไนก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ไม่น้อยโดยเฉพาะชาวชนบทที่มีงานทำตลอดปี เพราะตลาดต้องการไม่มีที่สิ้นสุด
นายประยูร ศิริกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 13 บ้านสร้างถ่อ ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญที่ก่อนจะมายึดอาชีพเจียระไนพลอย ก็ต้องต่อสู้กับชีวิตอย่างหนักเพราะเรียนจบแค่ชั้นประถม 4
นายประยูรเล่าว่า ได้มุ่งเข้ากรุงเทพฯหวังทำงานหาเงิน เพราะคิดว่าเป็นดินแดนที่เจริญ คงหางานดีๆ มีรายได้ดีๆ ทำได้ไม่ยาก แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เพราะต้องไปทำงานเป็นกรรมกรรับจ้าง รับงานทุกชนิด ได้เงินไม่เพียงพอที่จะส่งไปช่วยเหลือทางบ้าน
แต่ดวงยังดี ที่มีเพื่อนชวนไปทำงานเจียระไนพลอยที่จ.จันทบุรี ด้วยความมานะอดทน ใช้เวลานานถึง 10 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญ เถ้าแก่ให้ความเชื่อใจในความซื่อสัตย์สุจริต แต่ต่อมาก็อยากกลับถิ่นเกิด เพราะพ่อแม่ชรามาก จึงไปปรึกษากับเถ้าแก่ขอเอาพลอยไปทำที่ จ.อำนาจเจริญ โดยจะฝึกให้ชาวบ้านมาร่วมกันทำ เถ้าแก่ก็เห็นชอบด้วย จึงเป็นก้าวแรกของการจุดประกาย ให้มีกลุ่มเจียระไนพลอยเกิดขึ้น ในหมู่บ้านสร้างถ่อ เมื่อปี 2538
นายประยูรกล่าวว่า แรกเริ่มก็นำพลอยจากเถ้าแก่มาประมาณ 1 หมื่นเม็ด ฝึกให้ชาวบ้านเจียระไนจนเป็น จากนั้นก็จัดหาเครื่องมือ
ให้ ยิ่งระยะเวลาเนิ่นนานออกไป ชาวบ้านเหล่านั้นก็ยิ่งมีความชำนาญ จนยึดเป็นอาชีพทั้งหมู่บ้าน เพราะมีรายได้ดีกว่าไปทำอาชีพอื่น แต่พอปี 2540 ก็เกิดภาวะเศรษฐกิจ ทำให้วงการพลอยกระทบประสบปัญหา จากที่เคยทำรายได้วันละ 200-300 บาท ก็เหลือเพียง 40-60 บาท แต่ไม่มีใครย่อท้อต่อสู้ตลอดมา
พอขึ้นปี 2541 ก็มีการรวมกลุ่มจัดตั้งศูนย์เจียระไนพลอยขึ้นที่บ้านสร้างถ่อมีสมาชิก 200 คน และได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานศูนย์ ซึ่งต้องรับผิดชอบมากมายหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการตลาด จำเป็นต้องวิ่งเข้าเจาะตลาดเอง ไม่ว่าจะเป็นที่จ.จันทบุรี ระยอง เพชรบุรี หรือแม้แต่ที่ กทม. จนมีออเดอร์สั่งเจียระไนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีการข้ามไปเจาะตลาดต่างประเทศด้วยเพราะมีชายแดนติดกับไทย
นายประยูรกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 กิจการค้าพลอยก็ดีขึ้นมาตลอด ได้สั่งจากแหล่งพลอยโดยตรงครั้งละ 1 แสนเม็ด และสั่งจากเถ้าแก่เก่าที่ จ.จันทบุรี บางส่วนมาเจียระไน และมีการส่งไปจำหน่ายยังประเทศลาวด้วย โดยจะส่งทุก 7 และ15 วัน ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะโดยทั่วไป รายได้เป็นค่าแรงวันละ 120 บาท ที่ขยันและฝีมือดีก็จะได้400-500 บาท/วัน เฉลี่ยแล้วอย่างต่ำต้องมีรายได้ 6 พันบาทต่อเดือน ขณะที่ตนเองจะมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท
นายประยูรยืนยันว่า ปัจจุบันในหมู่บ้านเลิกทำนาไปแล้ว เพราะอาชีพเจียระไนพลอยมีรายได้ที่แน่นอนและดีกว่า ไม่ต้องไปตากแดดหน้าดำอยู่ในนา ทำให้เห็นว่า คนเราไม่ว่าจะยึดอาชีพอะไร ขอให้มีความอดทน ขยัน รักในงานที่ทำและซื่อสัตย์สุจริตก็จะประสบความสำเร็จได้
นางสุพิชา งามเจริญ ทำงานบริษัทในตัวเมืองอำนาจเจริญขณะเดินชมพลอยในงานจำหน่ายสินค้าประจำตำบล บอกว่า นิยมเครื่องประดับที่ทำมาจากพลอยมาก ที่ผ่านมา เดินทางไปซื้อถึง จ.จันทบุรี เมื่อทราบว่า ที่อ.หัวตะพาน มีแหล่งเจียระไนพลอย และนำมาออกร้านจำหน่ายในงานนี้ด้วย จึงเดินทางมาซื้อ ในราคา 1,500 บาท ก็ไม่ถือว่าแพง ถ้าเทียบกับแหล่งผลิตทางภาคตะวันออก ต่อไปนื้ไม่ต้องเดินทางไปซื้อพลอยถึงจันทบุรีอีกแล้ว นางสุพิชา บอก
ด้านนางอุบลรัตน์ รักษาศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่าศูนย์เจียระไนพลอยบ้านสร้างถ่อ จัดตั้งขึ้นมากว่า 18 ปี ด้วยการเจียระไนพลอยทำเป็นหัวแหวนส่งขายยังต่างจังหวัดและต่างประเทศ สร้างรายได้เข้าชุมชนปีละกว่า 20 ล้านบาทส่งผลให้เศรษฐกิจในชุมชนเจริญเติบโตดีมาก เพราะทุกคนมีงานทำ บางคนไม่ทำนาปลูกข้าว แต่ว่าจ้างคนทำแทน ที่ผ่านมาทาง อบต.สร้างถ่อนน้อย ได้เข้าไปส่งเสริมการขาย การตลาดประชาสัมพันธ์ ด้วยการนำสินค้าไปร่วมงานสำคัญๆ ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ ซึ่งได้ผลดีมาก โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าดีเด่นประจำตำบลสร้างถ่อน้อย เพื่อจำหน่ายสินค้าแก่นักท่องเที่ยวที่มาชมป่าดงใหญ่และสวนสัตว์ ก็เป็นการสร้างรายได้เข้าท้องถิ่นอีกทางหนึ่งด้วย
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี