รวบเกาหลีหนีคดีโกงนับ10ปี ตระเวนกบดานหลายประเทศ สุดท้ายจนมุม ตม.ไทย
6 กันยายน 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช. สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4 , พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5 , พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผบก.ตม.6
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติราชการประจำ สตม. ได้แก่ พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 , พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร รอง ผบก.สกส.บช.ปส. , พ.ต.อ.ปรม พฤทธิกุล ผกก.ฝอ.บก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.ฝ่ายกิจการต่างประเทศ บก.อก.บช.ส. และ พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.ฝอ.ศทก.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายชาวเกาหลีใต้
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานงานจากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ว่า นายซุง จิน อายุ 61 ปี บุคคลสัญชาติเกาหลีใต้ เป็นบุคคลที่มีหมายจับตำรวจสากล ลง 18 กรกฎาคม 2562 ในข้อหา “ฉ้อโกง” และทางการเกาหลีใต้ต้องการตัว
นายซุง จิน มีพฤติการณ์กล่าวคือเมื่อช่วงปี 2552 นายซุง จิน ได้เปิดบริษัท ชื่อ Chikozaruen Mpartners ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดแรลลี่ ทริป ขับรถเที่ยวผ่านเส้นทางในหลายๆประเทศ เช่น จีน , รัสเซีย , มองโกเลีย ฯลฯ หลังจากนั้นได้หลอกลวงผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้หลายรายมาร่วมลงทุนในบริษัท โดยอ้างว่าบริษัทดังกล่าวจะสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้เสียหายจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และได้ลงทุนซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าวเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 144,398,850 วอน หรือประมาณ 5 ล้านบาท เหตุเกิดระหว่าง 12 ตุลาคม 2552 – 10 กุมภาพันธ์ 2553 ต่อเนื่องกันที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากนั้นนายซุง จิน ได้หลบหนีออกนอกประเทศตั้งแต่ปี 2552 เป็นเวลากว่า 10 ปี เพื่อหนีคดีดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่านายซุง จิน ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ได้รับประเภทวีซ่าอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2562 และพยายามหลบหนีการติดตาม โดยการเช่าคอนโดจากเจ้าของห้องโดยตรง เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้
จากการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว พบว่า นายซุง จิน ได้พักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ในซอยเสรี 9 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม 2562 พบนายซุง จิน ได้เดินลงมาจากห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับตำรวจสากลที่ทางการเกาหลีใต้ต้องการตัว
จากการซักถาม นายซุง จิน ให้การว่า ได้ก่อคดีตามหมายจับตำรวจสากลจริง และได้พยายามหนีคดีมานานโดยไม่ได้กลับไปที่ประเทศเกาหลีใต้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยจะอาศัยเดินทางอยู่ตามประเทศต่างๆได้แก่ รัสเซีย , จีน , มองโกเลีย , กัมพูชา , เมียนมา , ลาว ,เวียดนาม และอีกหลายประเทศ เพื่อหลบหนีการติดตามตัวจากทางการเกาหลีใต้ และสุดท้ายได้เดินทางยังประเทศไทยและถูกเจ้าหน้าที่ ตม.ไทยตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ สตม. จะได้ทำการเพิกถอนวีซ่าและดำเนินการประสานกับทางสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อส่งตัวกลับไปยังประเทศเกาหลีใต้ต่อไป
ทั้งนี้ ตามนโยบายของ ผบช.สตม. ได้กำชับการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ว่าด้วยการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวภายใน 24 ชั่วโมง กรณีที่เจ้าบ้าน เคหสถาน หรือโรงแรม ที่รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายใน 24 ชั่วโมง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 ซึ่งกรณีดังกล่าว สตม. ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเจ้าของที่พัก เป็นเงินจำนวน 1,600 บาท และแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
# ขอบคุณภาพ-ข้อมูล พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.อก.สตม. ปฏิบัติราชการ รองผบก.ตม.1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี