“สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด” จังหวัดสกลนคร เป็น 1 ในโครงการพระราชดำริ ของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเลี้ยงโคนม และแปรรูปผลิตภัณฑ์นมภายใต้ตรา“นมวาริช” นมโคแท้ 100% คุณภาพตามมาตรฐานสากล
นายชิณณวรรธน์ ภูเวียนวงศ์ ประธานสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด กล่าวว่า เมื่อปี 2528 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานของ สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์สกลนคร ทรงมีพระราชดำรัสให้กรมปศุสัตว์ ร่วมกับจังหวัดสกลนคร ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในจังหวัดสกลนคร จึงเกิดเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ค้อเขียว และมีการดำเนินกิจการเรื่อยมาจนกลายมาเป็น “สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด” ที่ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2535 ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2535 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ แล้วทรงเห็นว่าสหกรณ์ฯแห่งนี้ ยังขาดถังเก็บน้ำนมดิบ ซึ่งมีความจำเป็นมากเพราะจะช่วยเก็บรักษาน้ำนมดิบที่รวบรวมมาทั้งหมด เพื่อรอการจำหน่ายเป็นน้ำนมดิบ หรือนำไปผลิตเป็นนมพร้อมดื่มต่อไป จึงทรงมีพระราชดำริ ให้พิจารณาหาถังเก็บน้ำนมดิบให้กับสหกรณ์ จึงได้มีการจัดหาถังเก็บน้ำนมดิบ จำนวน 1 ถัง ขนาดจุ 10,000 ลิตรช่วยแก้ไขปัญหาการรับน้ำนมดิบจากสมาชิกและสร้างขวัญกำลังใจแก่เกษตรกร
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่รับสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ อยู่ในโครงการพระราชดำริ ทำให้เกิดความมุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดจนมีผลิตภัณฑ์เป็นสินค้า OTOP จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของอ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ที่สำคัญกระบวนการผลิตผ่านมาตรฐานทุกขั้นตอน ตั้งแต่ฟาร์มของสมาชิกได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ทุกฟาร์ม ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบและโรงงานแปรรูป ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP (Codex) HACCP Q และ Halal นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในด้านเงินกู้เพื่อใช้ในการรวบรวมน้ำนมดิบและให้งบจัดซื้ออุปกรณ์ใช้ในกิจการสหกรณ์ เช่น อุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพน้ำนมดิบ ห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพ รถห้องเย็นสำหรับขนส่งผลิตภัณฑ์นมติด ทำให้เชื่อมั่นได้ว่านมวาริช เป็นนมโคแท้ 100% ที่มีคุณภาพมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามสโลแกนคุณภาพทุกหยดสดจากฟาร์ม
แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของนมวาริชคือ มีรสจืด เพียงรสชาติเดียว ทำให้ขาดความหลากหลาย ดังนั้น สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนคร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ศึกษาวิจัยพัฒนานมรสชาติใหม่ โดยขอรับงบประมาณสนับสนุนจาก กองทุน FTA เพื่อมาดำเนินการพัฒนาภายใต้ โครงการ “พัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและพัฒนาระบบบริหารจัดการของสหกรณ์วาริชภูมิ จำกัด” ผลการดำเนินโครงการ ได้มีรสชาติใหม่ออกมา ซึ่งเป็นรสชาติที่เป็นอัตลักษณ์ และรสชาติที่ชื่นชอบของตลาด ได้แก่ นมรสหมากเม่า เป็นนมที่มีสีม่วง ผลิตจากส่วนผสมของหมากเม่า ซึ่งผลไม้ท้องถิ่นของจังหวัดสกลนคร นมรสแคนตาลูป ที่มีความหอม หวาน จากฟาร์มของชาวสกลนครนมรสหวาน และรสช็อกโกแลต ซึ่งเป็นรสชาติยอดนิยมที่ได้จากการสำรวจตลาดในโมเดิร์นเทรด
ทั้ง 4 รสชาติ ยังอยู่ระหว่างการทดสอบตลาด ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี คาดว่าในเร็วๆ นี้จะสามารถผลิตนมยูเอชที รสหวาน ออกมาวางจำหน่ายได้เป็นรสชาติแรก และรสชาติอื่นจะทยอยผลิตตามมาในอนาคต อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าแผนการขยายการผลิตนมรสชาติหลากหลาย ควบคู่กับแผนการตลาด ที่เจาะกลุ่มตลาดโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสกลนคร อีกทั้งการร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัดที่นำสินค้าไปจำหน่ายในร้านธงฟ้า จะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับนมวาริชมากขึ้น โดยเบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนการตลาดนมจากเดิมที่จำหน่ายได้ประมาณ 700,000-800,000 กล่องต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 1,000,000 กล่องต่อเดือน
“ถ้าสหกรณ์ฯรับซื้อน้ำนมดิบจากสมาชิกในปริมาณและราคาที่เพิ่มขึ้น สมาชิกเองก็มีรายได้ที่ดี ทำให้เกิดความมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบ สามารถยกระดับคุณภาพนมโคแท้ตรา นมวาริช สร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนมวาริชภูมิและสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกว่า 140 ครอบครัวก็ถือว่าสหกรณ์ฯ เดินไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แล้ว” นายชิณณวรรธน์ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี