ปภ.สั่งทุกหน่วย เข้มกฎหมาย ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงปีใหม่ ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2562-2 มีนาคม 2563เน้นลดปัจจัยเสี่ยงย้ำมาตรการ “1 ท้องถิ่น 1 ถนนปลอดภัย” ดึงด่านชุมชน-ครอบครัวช่วยอีกแรง พร้อมขอความร่วมมือรถบรรทุกหยุดวิ่งขนส่ง อัญสัมชัญโพลเผยปชช.อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาปากท้องให้เป็นของขวัญปีใหม่
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมการเรื่องเฝ้าระวัง การใช้ถนนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเน้นประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบเพื่อระมัดระวังการใช้รถ ใช้ถนน อย่าให้เกิดอุบัติเหตุนำไปสู่ความสูญเสีย ซึ่งขออย่าขับรถเร็ว อย่าดื่มสุราขณะขับขี่ ป้องกันความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินและอุบัติเหตุ
ด้านนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าว่า รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน จึงมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดย ปภ.กระทรวงมหาดไทย บูรณาการหน่วยงานขับเคลื่อนสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” พร้อมขับเคลื่อน “ตำบลขับขี่ ปลอดภัย” ช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม2562 – 2 มกราคม 2563 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน โดยบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นเข้มงวดพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ กวดขันความพร้อมของผู้ขับขี่ และตรวจสอบความปลอดภัยของยานพาหนะ รวมถึงคุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่กฎหมายกำหนด
อีกทั้งจัดทำประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน ใช้กลไก“ด่านครอบครัว” และจัดด่านชุมชนป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนน ด้วยการส่งเสริมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยผ่านช่องทางสื่อทุกรูปแบบ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนมาตรการ “1ท้องถิ่น1ถนนปลอดภัย” ปรับปรุงเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุให้ปลอดภัย อีกทั้ง อำนวยความสะดวกในการเดินทาง เปิดทางช่องทางพิเศษ ให้ข้อมูลเส้นทางลัดและจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงเตรียมจุดพักรถ คุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยของยานพาหนะทุกประเภท รวมถึงขอความร่วมมือหยุดขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ และกวดขันรถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกิน นอกจากนี้ ยังกำชับมาตรการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ จัดบริการทางการแพทย์ให้พร้อมตลอดเวลา
วันเดียวกัน สถาบันวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอยูโพล)เผย ผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องปีใหม่ 2563 : คนไทยคิดอะไร? ผลสำรวจพบว่า สภาพปัญหาต่างๆ เมื่อเทียบกับปี 2561 และ2563 ด้านปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ประชาชนร้อยละ 65.82 ระบุปี 2562 แย่กว่าปี 2561 และร้อยละ 50.02 เห็นว่า ปี 2563 จะแย่กว่านี้ ปัญหาจราจร ร้อยละ58.28 เห็นว่าปี 2562 เหมือนกับปี 2561 และร้อยละ 55.35 ระบุ ปี2563 จะเหมือน 2562 ส่วนปัญหาฝุ่นละอองมลพิษ ร้อยละ 55.48 ระบุ ปี2562 แย่กว่าปี 2561 และร้อยละ46.45 ปี 2563 น่าจะเหมือนปี 2562 ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 52.24 ปี 2562 หมือนปี 2561 ร้อยละ 52.08 ปี 2563 น่าจะเหมือนปี 2562 ละปัญหาอาชญากรรมต่างๆร้อยละ 49.35 เห็นว่า ปี 2562 แย่กว่าปี 2561 และร้อยละ 48.32 ระบุ ปี 2563 น่าจะเหมือนปี 2562
เมื่อถามถึงของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล อันดับ 1 คือ ให้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพ ปากท้องของประชาชน อันดับ 2 ปรับเปลี่ยนการบริหารงานใหม่ สร้างความมั่นใจให้ประชาชน อันดับ 3 เพิ่มรายได้ เงินช่วยเหลือและเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ อันดับ 4 แก้ปัญหารถติด การจราจร อันดับ 5 แก้ปัญหาคอร์รัปชัน อันดับ 6 แก้ปัญหาอาชญากรรม อันดับ7 วันหยุดเพิ่มช่วงปีใหม่ อันดับ 8 สร้างสังคมให้น่าอยู่ ความสุขของประชาชน อันดับ9 แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และอันดับ 10 อื่นๆ ได้แก่ ส่งเสริมด้านการศึกษา ลดภาษีลง แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ เพิ่มกองทุนกู้ยืมเพื่อประชาชน แก้ปัญหาการว่างงาน กวาดล้างปัญหาชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมด้านสาธารณสุข ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ แก้ปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี