“ครูตั้น” เปิดงานครบรอบ 65 ปี ร.ร.สามเสนฯ ชื่นชมความสำเร็จขอให้แชร์ความรู้ให้ร.ร.เล็กเพื่อยกระดับ-ลดความเหลื่อมล้ำ เผยภายใน2-3ปีนี้ รบ.พร้อมสร้างโรงเรียนคุณภาพสูงทุกจังหวัด เพื่อเด็กตจว.ไม่ต้องขวนขวายเข้ามาเรียนในเมือง
วันที่ 28 มกราคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานพิธีเปิดงานวันครบรอบ 65 ปี โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และพิธีมอบโล่เกียรติบัตรและประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ทำคุณประโยชน์กับโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย โดยมี ดร.สหชัย สาสวน ผู้อำนวยการ ร.ร.สามเสนฯ คณะผู้บริหาร ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน พร้อมด้วยสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย สมาคมนักเรียนเก่า สามเสนฯ มูลนิธิโรงเรียนสามเสนฯ มูลนิธิสมาคมนักเรียนเก่าสามเสนฯ และชมรมครูอาวุโสโรงเรียนสามเสนฯ ร่วมในพิธี
นายณัฏฐพล กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันครบรอบ 65 ปี โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จากที่ได้ชมวีดีทัศน์แสดงถึงความสำเร็จและผลงานของโรงเรียนสามเสนฯก็ขอชื่นชมและพร้อมสนับสนุนงานที่จะทำให้โรงเรียนสามเสนฯเป็นโรงเรียนชั้นนำของประเทศ ขณะเดียวกัน จากวีดิทัศน์ก็สะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ว่าในขณะที่เรามีโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จ ก็ยังมีอีกหลายหมื่นโรงเรียนที่ต้องการการร่วมพัฒนา
วันนี้ มาอยู่ท่ามกลางผู้ที่ประสบความสำเร็จและผู้ที่สนับสนุนโรงเรียนสามเสมวิทยาลัยมาเป็นระยะเวลายาวนาน และอยู่ระหว่างอนาคตผู้นำประเทศ คือนักเรียน ตนมั่นใจว่าอนาคตนักเรียนจะสามารถเป็นผู้นำของประเทศไทยได้ จึงขอใช้โอกาสนี้ปลุกทุกคนทำสิ่งที่ดี ๆเหมือนที่ทำกันมาแล้ว และร่วมทำกันต่อไป และช่วยนำพาความรู้ที่มี นำพาความสำเร็จที่ผ่านมา และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตร่วมัฒนากับโรงเรียนอื่น ๆและโรงเรียนเล็กทั่วประเทศ สำหรับน้องๆที่ได้มีโอกาสมาเรียนที่สามเสนฯ ถือว่าเป็นนักเรียนที่มีคุณภาพของประเทศและได้รับรู้สิ่งดีๆ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสก็ขอให้นำความรู้ไปแชร์เพื่อน ๆหรือนักเรียนในโรงเรียนอื่นๆด้วย ซึ่งจากที่ดูวีดีทัศน์ จำนวนนักเรียน และจำนวนครู ของโรงเรียนสามเสนได้มาตรฐานของประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยสัดส่วนครูต่อนักเรียนน่าจะน้อยที่สุดในโลก ซึ่งทั่วไปประมาณ 16:1 คือ นักเรียน 16 คน ต่อครู 1 คน หรือ ประมาณ 20:1 ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี แต่ทำไมการศึกษาของไทยยังไม่มีโอกาสพัฒนาไปได้อย่างเต็มที่ เราจึงต้องช่วยกัน
“ท่านนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการสร้างการศึกษาไทยให้มีความเท่าเทียมกัน หรือลดความเหลื่อมล้ำลง ก็ขอชื่นชมความสำเร็จของโรงเรียนสามเสน และหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนสามเสนฯจะมีความภูมิใจที่วันนี้เป็นวันครบรอบ 65 ปี และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมโรงเรียนเพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนตามนโยบายของทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ตั้งใจจะทำให้โรงเรียนสามเสนฯมีขีดความสามารถแข่งขันได้ในระดับสากลในระดับโลก และเสริมสร้างพื้นฐานนักเรียนให้มีคุณธรรมความดี มีความตั้งใจที่จะทำให้ประเทศของเราพัฒนาไปสู่ระดับต้น ๆของโลก ก็ขอเป็นกำลังใจให้จัดการศึกษาของโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยมีความเข้มแข็งมั่นคงยั่งยืนและยืนอยู่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย” รมว.ศธ. กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า โรงเรียนสามเสนฯ เป็นโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการบริหารจัดการ และการให้ความรู้แก่เยาวชน ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆของประเทศ จึงอยากให้แชร์ความสำเร็จนี้ขยายผลไปยังโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลต่างจังหวัด หรือโรงเรียนในกรุงเทพฯ และอยากให้โรงเรียนสามเสนฯเป็นโรงเรียนพี่ ที่มีน้องๆที่ต้องการยกระดับให้ใกล้เคียงกัน คงไม่สามารถทำให้เท่ากับโรงเรียนสามเสนได้ แต่ถ้าเราสามารถลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ ก็จะเป็นผลดีกับประเทศไทย
“ผมได้หารือกับเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้อำนวยการโรงเรียน ถึงการรับนักเรียน ว่าให้มีความเท่าเทียมกันในเรื่องของโอกาส เพื่อให้เด็กที่มีความสามารถกระจ่ายจากทั่วประเทศ ที่อยากเข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพและมีการแข่งขันกัน ผมก็หวังว่าในอนาคตอันไกลน่าจะไม่เกิน 2-3 ปี นี้ รัฐบาลจะสามารถบริหารการจัดการการศึกษาผ่านกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาทั่วประเทศ โดยการสร้างโรงเรียนในทุก ๆจังหวัด หลายๆโรงเรียนให้มีคุณภาพสูง เพื่อให้เด็กที่อยู่ต่างจังหวัดมีความมั่นใจไม่จำเป็นต้องขวนขวายเข้ามาหาโรงเรียนในเมืองเพื่อให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ” รมว.ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี