‘เทศบาลนครรังสิต’ใช้งบกองทุนสุขภาพตำบล ซื้อหน้ากากอนามัยดูแลปชช.
4 มีนาคม 2563 นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวในการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ “หลักสูตรพัฒนาสมรรถนะผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่” จัดโดยสถาบันสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถึงการขับเคลื่อนกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) หรือ “กองทุนสุขภาพตำบล” ว่า ภาระหน้าที่ด้านสุขภาพและการสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีอำนาจหน้าที่ส่วนหนึ่ง แต่การขับเคลื่อนงานในพื้นที่หากใช้ระบบราชการเพียงอย่างเดียวในการดำเนินการเป็นสิ่งที่ยากจะบรรลุผล ต้องมีกระบวนการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมและยังต้องมีเม็ดเงินสนับสนุนเพื่อดำเนินการ กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นฯ จึงเป็นกลไกที่เชื่อมต่อในส่วนนี้ เพราะนอกจากมีงบประมาณสนับสนุนแล้ว ยังมีความรู้จากแต่ละภาคส่วนมาร่วมขับเคลื่อนงานมิติสุขภาพได้ ทำให้ที่ผ่านมางานด้านสุขภาพของท้องถิ่นเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ภายหลังจากมี กปท.มาสนับสนุน
ทั้งนี้ จากกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ ที่ได้เริ่มต้นในปี 2549 โดยในส่วนของระเบียบและหลักเกณฑ์การดำเนินงานกองทุน แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงการดำเนินการที่ออกไปนอกระบบ ขณะนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของท้องถิ่น เป็นงานที่ท้องถิ่นไม่เคยทำเลย จึงอาจติดขัดในเรื่องความไม่แน่ใจของบุคลากรในท้องถิ่นเอง แต่ก็ทำให้เกิดการพัฒนางานด้านสุขภาพของท้องถิ่นพัฒนาไประดับหนึ่ง
ระยะที่ 2 ช่วงการแก้ไขระเบียบและหลักเกณฑ์กองทุน โดยนำระเบียบราชการมาจับ เรียกว่าเป็นการดึงกองทุนเข้าสู่ระบบราชการ 100% จนส่งผลให้การดำเนินงานสะดุดลง
ระยะที่ 3 เป็นช่วงการแยกกระบวนการ โดยในกรณีที่เกี่ยวข้องกับราชการจะใช้ระบบราชการขับเคลื่อน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับประชาขนจะใช้กระบวนการภาคประชาชนขับเคลื่อน ส่งผลให้เกิดความสมดุล เกิดโครงการเพื่อสุขภาพที่หลากหลายและตอบโจทย์ได้มากขึ้น
“จากการมีกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ ทำให้เทศบาลนครรังสิตสามารถทำในเรื่องที่เราไม่เคยทำได้ มีข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพให้กับชาวบ้านมากขึ้น เพราะในอดีตข้อมูลสุขภาพที่นำมาใช้นั้นมาจากโรงพยาบาลที่มีแต่ผู้ป่วยและจำกัด ไม่มีข้อมูลระดับเมือง แต่กองทุนนี้ที่สามารถดำเนินกิจกรรมตรวจสุขภาพชาวบ้านได้ ทำให้เรามีมิติของข้อมูลสุขภาพทั้งหมด สามารถลงลึกจัดการปัญหาสุขภาพในพื้นที่ได้ เช่น ปัญหาโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ทำให้เกิดการจัดการเชิงรุก เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมาก” นายธีรวุฒิ กล่าว
นายธีรวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมากองทุนมีการปรับเปลี่ยนระเบียบต่างๆ ที่ยังตามไม่ทัน และในด้านการบริหารกองทุนก็ยังมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจ การอบรมครั้งนี้จึงเป็นการทบทวนระเบียบและการบริหารเพื่อให้เกิดความกระจ่างในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ยังเป็นเวทีของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้ได้มุมมองการดำเนินงานกองทุนใหม่ๆ มาขับเคลื่อนเพิ่มเติม
นายธีรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนโครงการป้องกันสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5 นั้น เทศบาลได้ติดตามปัญหานี้ต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว มีการติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นละอองเพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งปัญหานี้ต้องใช้มาตรการหลายอย่างดำเนินการ มีทั้งที่เทศบาลทำโดยตรง และส่วนหนึ่งก็ใช้กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ อย่างโครงการจัดซื้อหน้ากากอนามัยให้กับชาวบ้าน โดยเราได้ดำเนินการไปแล้วโดยใช้งบประมาณของเทศบาล และอยู่ระหว่างอนุมัติเพิ่มเติมอีกที่เป็นการใช้งบกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ สนับสนุนเพื่อเพิ่มการเข้าถึงหน้ากากอนามัยให้กับกลุ่มเสี่ยง ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยป้องกันการแพร่กระจายโรคได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี