"บอร์ดคุรุสภา"เห็นชอบหลักเกณฑ์ประเมินตั๋วครู เน้นจรรยาบรรณวิชาชีพ เปิดสอบ"ป.บัณฑิต"รุ่นแรกต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 3563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เห็นชอบร่าง ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 ซึ่งตนได้กำชับ ว่า การทดสอบขอให้ครอบคลุม ตรงตามสาขาการสอน รวมถึงขอความชัดเจน ในเรื่องของครูต่างประเทศ ที่จะขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หากสอบผ่านมาตรฐานความเป็นครูได้จะได้รับใบอนุญาตฯ ในการสอน

นอกจากนี้ ตนยังได้ย้ำให้ทางคุรุสภา พิจารณามาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพครู ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับการให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ที่ต้องมีความเข้มข้น รวมถึงประสานกับสถาบันผลิตครู ซึ่งปลายเดือนมีนาคม นี้ ตนจะเชิญผู้บริหารสถาบันผลิตครู เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ แม้สถาบันผลิตครู อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แต่การทำงานก็ยังต้องเชื่อมต่อกับ ศธ.ดังนั้น จึงต้องมีการหารือกัน เพื่อสร้างความเข้าใจ

"ส่วนตัวมีโจทย์สำคัญที่คิดว่าเรื่องจิตวิญญาณความเป็นครู ไม่ได้มีปัญหา แต่เรื่องการปรับหลักสูตรผลิตครูเพื่อเตรียมทักษะความพร้อมรองรับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากทำการสอนแบบเดิมก็จะมีข้อจำกัด ทำให้เด็กที่จบออกมาไม่มีความพร้อมในการปรับตัว" รมว.ศธ.กล่าว

ด้าน นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการคุรุสภา เห็นชอบเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบฯ แล้ว ก็รอให้ รมว.ศธ.ลงนาม ก่อนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการต่อไป ในส่วนของคุรุสภา จะเตรียมจัดทำข้อสอบ บริหารจัดการระบบการจัดสอบ จัดตั้งศูนย์สอบต่างๆ ให้ครอบคลุม คาดว่าจะเริ่มจัดสอบครั้งแรกภายในเดือนตุลาคม 2563 นี้ ซึ่งจะมีผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หรือปริญญาโท (ป.บัณฑิตปีการศึกษา 2563 จำนวน 10,500 คน เข้ารับการทดสอบเป็นกลุ่มแรก ที่จะเข้าเรียนในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาตร์ และจบในปีการศึกษา 2565)

"รมว.ศธ.ได้ส่งสัญญาณให้สถาบันผลิตครูเข้มข้นในเรื่องการสอน เพื่อผลิตบัณฑิตครูที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันยังขอให้คุรุสภา ไปพิจารณาเรื่องระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้สามารถการตรวจสอบกรณีครู หรือผู้บริหารทำผิดจรรยาบรรณและสามารถลงโทษได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางคุรุสภาก็จะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้" นางวัฒนาพร กล่าว