“ครูตั้น” สั่งทุกหน่วยงานศธ.ปรับงบฯเพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนที่ตกงาน และให้ทุกหน่วยงาน สังกัด ศธ.จัดบุคลากรหมุนเวียนสลับวันทำงานวันเว้นวัน
วันที่ 19 มีนาคม 2563 นายประเสริฐ บุญเรื่อง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และโฆษก ศธ. กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) มีการแพร่ระบาดในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตของบุคลากรในสังกัดที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าว นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) จึงกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ถือปฏิบัติ ดังนี้
1. ให้บุคลากรทุกคน ติดป้ายแสดงตนตลอดเวลาปฏิบัติงาน สำหรับผู้เข้ามาติดต่อราชการต้องแลกบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ทางราชการออกให้ ทุกครั้ง
2.ให้ข้าราชการที่เข้ารับการอบรมตามโครงการอบรมพัฒนาข้าราชการครูบรรจุใหม่ หลักสูตร "การเป็นข้าราชการที่ดี" ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 96 คน เมื่อวันที่ 5- 14 มีนาคม 2563 ซึ่งอบรมที่ศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจกรรมเยาวชน “ผิน แจ่มวิชาสอน” รวมทั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบและวิทยากรที่ปฏิบัติงานในช่วงวันดังกล่าวอีกประมาณ 10 คน ให้หยุดปฏิบัติราชการและฝ้าระวังตนเอง เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. เป็นต้นไป และรายงานอาการ ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นตันทราบ
3. มอบงานให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงานที่บ้านตามความเหมาะสม และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ต เช่น ประชุมทางไกล เป็นต้น โดยเปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาและให้ทุกหน่วยงาน หน่วยงานทางการศึกษา ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดบุคลากรหมุนเวียน สลับวันทำงานวันเว้นวัน ไปจนกว่าจะมีประกาศยกเลิก ทั้งนี้ยกเว้นผู้บริหารระดับสูง ระดับตัน อำนวยการระดับสูง ระดับต้น และประเภทวิชาการชำนาญการพิเศษ ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส (ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม/ฝาย/งาน) รวมถึงประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ รวมทั้งแม่บ้าน นักการภารโรง รปภ. ให้มาปฏิบัติงานตามปกติ
4.ให้ทุกหน่วยงานใน ศธ.จัดตั้งจุดคัดกรอง และเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิทางร่างกาย ในทุกทางเข้า-ออกของอาคาร โดยทำการตรวจวัดอุณหภูมิทางร่างกาย ทุกคน ทุกครั้งที่เข้า-ออกอาคาร หากพบว่ามีไข้สูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเชียส ให้กลับบ้านเพื่อเฝ้าระวังตนเอง เป็นเวลา 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา และปฏิบัติตนตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรายงานอาการ ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
5. ให้ทุกหน่วยงาน ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีคุณภาพ และทำความสะอาดพื้นที่ทั้งภายในห้องทำงานและภายนอกอาคารทุกอาคารตั้งแต่หน้ากระทรวงถึงคุรุสภา และ รพ.ครู ของสกสค. โดยให้ทำทุก 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21-22 มี.ค.นี้
6. จัดให้มีแอลกอฮอล์เจลทุกจุดเข้าออกอคารห้องประชุมสำนังาน สถานที่ปฏิบัติงาน และหน้าลิฟท์ ฯลฯ
7. การจัดประชุม อบรม สัมมนา ให้ใส่หน้ากากอนามัย และจัดให้นั่งห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร รวมทั้งให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ปลัดศธ. กล่าวต่อว่า รมว.ศธ.ยังมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในศธ. ปรับการใช้จ่ายงบประมาณปี 2563 เพื่อนำไปใช้จ่ายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วไปที่ตกงาน และให้จัดหาครูสอนเสริมความรู้ ฝึกอาชีพ เรียนออนไลน์ให้กับผู้ที่ตกงาน หรือจ้างพี่น้องประชาชนที่ตกงานเดือดร้อนไม๋มีรายได้ในพื้นที่ต่างๆให้มาทำงานในสถานที่ราชการ โรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษา กศน. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือมาช่วยซ่อมแซมโรงเรียน ในระยะแรก 6 เดือนนี้ โดยจะมีค่าจ้างให้วันละ 200 บาท ทั้งนี้เพื่อร่วมช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนและรับผิดชอบสังคมร่วมกัน
"ได้สั่งยกเลิกการจัดอบรมโครงการพัฒนานักบริหารระดับสูง (นบส.) ศธ.รุ่นที่ 10 ซึ่งจัดอบรมที่สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบส.) จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้เข้ารับการพัฒนาฯ จำนวน 87 คน เป็นบุคลากร ข้าราชการ สังกัด ศธ. จำนวน 79 คน และกระทรวงอื่น ๆอีกจำนวน 8 คน ซึ่งมีระยะเวลาอบรมรวม 5 เดือน จึงให้ยกเลิกการอบรมแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.63 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง"ปลัดศธ.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี