“ผบช.สตม.” แจ้งข่าวด่วน!!! อย่าหลงเชื่อ “แก๊งตุ๋น” สบช่อง “โควิด-19” ระบาด หลอกรีดค่านายหน้าหัวละ 1,200 บาท อ้างรับต่อ “วีซ่า” ให้ได้โดยไม่ต้องไปแสดงตัว พร้อมส่งชุดสืบสวนติดตามจับกุมแล้ว
28 มีนาคม 2563 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า ตามที่ได้มีมิจฉาชีพโพสต์ข้อความทางเพจเฟซบุ๊ก หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆว่ามีบริการรับต่อพาสปอร์ต หรือวีซ่า โดยเจ้าตัวไม่ต้องไปด้วยตนเองนั้น และมีการเรียกเก็บเงินค่าบริการจากลูกค้าคนละ 1,200 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวต่างชาติที่ไม่สามารถกลับประเทศตนเองได้ เนื่องจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกนั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของ สตม. ขอชี้แจงว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด สตม.จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน และขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนและประสานตำรวจท้องที่ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมอย่างจริงจังกับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว โดยหากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่โทร.191 , 1599 หรือสายด่วน สตม. 1178 เพื่อทาง สตม.จะได้ดำเนินการตรวจสอบ และจับกุมต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (รอง ผบก.ตม.1) ในฐานะรองโฆษก สตม. และโฆษก บก.ตม.1 เปิดเผยว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ หรือวอร์รูม ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ที่มี พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นประธานนั้น ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้มีข้อสั่งการถึงข้าราชการตำรวจในสังกัด สตม.ทุกนาย โดยเน้นย้ำให้ฝ่ายสืบสวนของแต่ละหน่วย ดำเนินการสืบสวนจับกุม โดยเน้นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการกักตุนสินค้าและขายเกินราคา จำพวกถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ และให้สืบสวนขยายผลกรณีมีนายทุนต่างชาติหนุนหลังการกระทำผิดดังกล่าว พร้อมให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจับกุม
นอกจากนี้ ยังให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเฟคนิวส์ หรือการปล่อยข่าวปลอม รวมถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่สร้างเพจหรือเว็บไซด์ปลอม เพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 หรือโรงพยาบาล เพื่อหลอกเอาเงินบริจาคจากประชาชนด้วย
โฆษก บก.ตม.1 กล่าวอีกว่า ในส่วนของ บก.ตม.1 ซึ่งตนในฐานะที่กำกับดูแลงานสืบสวน จึงได้กำชับข้อสั่งการดังกล่าวของ ผบช.สตม. ไปยังกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (กก.สส.บก.ตม.1) ให้ดำเนินการตามข้อสั่งการของ ผบช.สตม. ขณะที่ในส่วนของประชาชนหากพบเบาะแสการกักตุน หรือขายสินค้าดังกล่าวข้างต้นเกินราคา ทางโซเชียล หรือช่องทางต่างๆ รวมทั้งพบการหลอกลวงเปิดรับบริจาคเงินอ้างว่านำไปซื้อหน้ากากอนามัย หรือนำเงินไปช่วย รพ. สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่โทร 061-608-9919 ซึ่งข้อมูลตัวตนของท่านจะเป็นความลับ เพื่อทาง บก.ตม.1 จะได้ทำการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี