เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พ.ต.ท.โยธิน สีหาทิพย์ สว.ส.รน.3กก.6บก.รน. และนาวาโทรัฐพล ขะตะเจริญ หัวหน้าสถานีเรือสมุย ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ ได้ใหการต้อนรับ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมสืบสวนได้เดินทางมายังสถานีเรือสมุย ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบเรือประมงขนาดใหญ่ติดธงชาติประเทศปานามา ชื่อแกรนด์มาร์ริน 5 หลังจากเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เรือ ต.111ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ , ตำรวจน้ำเกาะสมุย , เจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะสมุย พร้อมด้วยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ทัพเรือภาคที่ 2ได้เข้าจับกุมเรือลำดังกล่าวเนื่องจากสงสัยว่าเป็นเรือที่ผิดกฏหมาย
จากการตรวจสอบพบว่าเรือลำนี้ชื่อเดิมชื่อ โชติชัยนาวี 5 ซึ่งเรือมีขนาด 687ตันกรอสส์ สัญชาติไทยเป็นเรือประมงเครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ต่อมาเรือได้ไปจดทะเบียนกับประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 ใช้ชื่อเรือว่า เอา แอนด์ ที สามูดีรา จาย่า 3 ถือธงสัญชาติอินโดนีเซีย ซึ่งระหว่างที่เรือลำนี้ขอสัญชาติเรือเป็นสัญชาติอินโดนีเซีย เจ้าของเรือยังไม่ได้ขอเพิกถอนสัญชาติเรือจากสัญชาติไทย จึงถือว่าเรือลำนี้เป็นเรือ 2 สัญชาติ ต่อมา พ.ศ.2559 เรือถูกตรวจสอบพบว่ามีสองสัญชาติ จึงได้ถูกเพิกถอนสัญชาติไทยเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 จากนั้นทะเบียนเรือที่ขึ้นกับประเทศอินโดนีเซียได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ระหว่างนั้นเรือได้จอดอยู่ที่ท่าเรือของประเทศอินโดนีเซีย ต่อมาได้รับอนุญาตให้ออกจากท่าอัมบน ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 โดยเรือได้ใช้ธงสัญชาติปานามา ทั้งที่ขณะนั้นยังไม่ได้สัญชาติจากประเทศปานามา
ต่อมา พ.ศ.2562 เรือได้จดทะเบียนชื่อใหม่โดยใช้ชื่อ เนวิเกชั่น สเปเชียล รีจิสทรี ( NAVIGATION SPECIAL REGISTRY ) กับประเทศปานามาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 แต่เขียนชื่อที่ข้างเรือว่า แกรนด์ มาร์ริน 5 ( GRAND MARINE 5 ) ถือสัญชาติประเทศปานามา ซึ่งใบอนุญาตได้หมดอายุเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563ที่ผ่านมา จากนั้นตัวแทนสายเรือได้ยื่นขออนุญาตนำเรือประมงแกรนด์ มาร์ริน 5 เข้าเทียบท่าที่ท่า ยูเนียน พอร์ท จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้ามาซ่อมเรือ
ในการจับกุมครั้งนี้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ทัพเรือภาคที่ 2ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงขนาดใหญ่ชื่อ แกรนด์ มาร์ริน 5 เข้ามาจอดทอดสมออยู่บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจเรือตามอำนาจ
โดยเรือ ต.111 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารประจำเรือพบว่า เรือได้เข้ามาจอดโดยไม่ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จึงได้แจ้งให้ผู้ควบคุมเรือประมงลำดังกล่าวทราบถึงการกระทำผิดกฎหมาย
จึงได้แจ้งฐานความผิดให้ผู้ควบคุมเรือทราบประกอบด้วย การไม่แจ้งเข้ามาในน่านน้ำไทยตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และ การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เป็นเรือประมงที่ไม่ใช่เรือประมงไทยเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่แจ้งเข้าท่าล่วงหน้าตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรา 95 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 นอกจากนี้เรือไม่ได้มีการติดตั้งระบบอุปกรณ์แสดงตนอัตโนมัติ หรือระบบAIS และ เรือไม่มีหมายเลขแสดงเอกลักษณ์ประจำเรือ หรือ IMO
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี