วันที่ 18 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี และนางป่าน ซ้ายซา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 บ้านยางคำ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนมว่า มีชายแต่งชุดลายพรางคล้ายทหาร ขับรถยนต์ปิกอัพเข้าไปควบคุมตัวลูกชาย 2 คน คือ นายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี และนายณัฐพงษ์ ซ้ายซา หรือแดง อายุ 29 ปีจากเถียงนาท้ายหมู่บ้าน โดยไม่ทราบว่าถูกนำตัวไปที่ไหน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 17 เม.ย.คืนที่ผ่านมา
นายนิวัฒน์ ผู้เป็นพ่อเปิดเผยว่า ตนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านยางคำ มีลูกชายเพียงสองคน ต่อมาป่วยด้วยลิ้นหัวใจรั่ว ไม่สามารถทำงานหนักได้ จึงอาศัยลูกทั้งสองที่ยังไม่มีครอบครัวเป็นผู้หาเลี้ยง โดยประกอบอาชีพทำนา ทำสวนยางพารา 6 ไร่ และรับจ้างทั่วไป ซึ่งลูกได้ปลูกเถียงนาน้อยไว้ในสวน ห่างจากหมู่บ้านแค่ 200 เมตร
นายนิวัฒน์ เล่าต่อว่า เมื่อค่ำวันที่ 17 เม.ย.เวลาประมาณ 19.00 น. นายแดง น้องชายได้เข้ามาเอาข้าวไปกินกับพี่ชายที่เถียงนา ต่อมามีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าที่สวนยางมีอะไร เพราะเห็นรถยนต์เปิดไฟหน้ารถสว่างจ้า และมีคนจำนวนหนึ่งบุกไปที่เถียงนาดังกล่าว และควบคุมตัวสองพี่น้องออกจากบริเวณนั้นไปแล้ว ตนจึงรีบไปดูพบเพียงข้าวของในเถียงถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย จึงกลับมาบอกนางป่านผู้เป็นภรรยา และได้โทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือของลูกทั้งสอง ปรากฏว่ามีคนอื่นรับสายแล้วบอกว่าลูกชายทั้งคู่อยู่กับเจ้าหน้าที่กำลังนำตัวไปสอบสวนเกี่ยวกับยาเสพติด หากไม่มีอะไรน่าสงสัยจะปล่อยตัวกลับเอง ตนและภรรยาจึงเข้านอนแต่ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงโทรศัพท์เข้าไปอีกที คราวนี้ติดแต่ไม่มีคนรับสาย โทรฯซ้ำอีกกว่า 10 ครั้งก็เหมือนเดิม
กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 18 เม.ย. ได้มีเบอร์โทรศัพท์ของลูกชายคนโตคือนายด่อน โทรเข้ามาโดยเสียงปลายสายบอกว่าให้ออกไปดูลูกชาย ไม่รู้เป็นอะไรขณะนี้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ตนทั้งสองจึงรีบออกไปยังโรงพยาบาลฯ พบชายแต่งกายครึ่งท่อนสวมกางเกงลายพราง เสื้อยืดคอกลมสีดำ ตรงปรี่เข้ามาพร้อมกับยกมือไหว้บอกว่า "ผมขอโทษนะครับ" นางป่านจึงถามกลับไป "พวกคุณทำอะไรลูกฉัน ไม่ใช่ทำร้ายจนตายแล้วเหรอ" ชายดังกล่าวตอบยังไม่ตาย อยู่ในความดูแลของแพทย์ ตนจึงเข้าไปดูอาการพบนายด่อน นอนไม่ได้สติตาเหลือกค้าง มีบาดแผลคล้ายถูกทำร้ายที่หางคิ้วซ้าย โหนกแก้มปูดเขียวช้ำ หน้าอกก็เหมือนถูกตีด้วยของแข็ง
ขณะที่แพทย์ พยาบาล ช่วยกันปั๊มหัวใจ ไม่นานแพทย์ก็บอกว่าขอแสดงความเสียใจด้วยลูกชายคุณเสียชีวิตแล้ว ตนและภรรยาถึงกับเข่าทรุด จากนั้นก็ถามชายชุดพรางต่อว่าแล้วลูกชายอีกคนอยู่ไหน ไม่ใช่ก็ถูกทำร้ายจนตายเหมือนกันพี่ชายหรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่เป็นอะไร เมื่อตนทั้งสองขอให้พาไปดูหรือขอคุยโทรศัพท์กับลูกก็ได้รับการปฏิเสธจากชายลายพราง ทำให้ตนจึงไม่รู้ชะตากรรมของลูกชายคนเล็กว่าเป็นอย่างไร
ต่อมาชายชุดพรางเดินเข้ามาหา พร้อมกับบอกว่า จะรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเกรงคดีนี้จะเงียบหายเพราะคู่กรณีเป็นข้าราชการ จึงออกมาร้องเรียนกับสื่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชาย เพราะเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งยอมรับว่าประมาณ 5-6 ปีลูกชายทั้งสองถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) เข้าบำบัดและคุมประพฤติตามขั้นตอนจนครบ และเป็นเสาหลักของครอบครัว ขายยางพาราได้เท่าไหร่ก็จะมายื่นให้พ่อแม่ทั้งหมดจะขอติดกระเป๋าไม่เกิน 1 พันบาท การสูญเสียลูกชายคนโตไปก็เหมือนเสาเรือนหัก ส่วนลูกชายคนเล็กถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่หรือตาย
จนรุ่งเช้าของวันที่ 18 เม.ย. สองสามีภรรยาก็ได้เดินทางไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม ไว้เป็นหลักฐาน โดยทางคู่กรณีได้ประสานขอเคลียร์โดยไม่ให้มีนักข่าวทราบเรื่องราวดังกล่าว ส่วนศพของนายยุทธนา หรือด่อน อยู่ในห้องดับจิตโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ เพื่อรออัยการฯร่วมชันสูตรพลิกศพ และจะต้องส่งศพไปผ่าพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อชันสูตรว่านายด่อนเสียชีวิตจากสาเหตุใด
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. นายนิวัฒน์ และนางป่าน สองสามีภรรยา เดินทางมาพร้อมกับญาติที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อเจรจากับคู่กรณีที่มีผู้บังคับบัญชามาด้วย เบื้องต้นคู่กรณีรับดำเนินการจัดการเรื่องศพทุกอย่างและทางผู้เสียหายขอรับเงินเยียวยาจำนวน 5 ล้านบาท แต่ยังไม่เป็นที่สรุปเพราะจะต้องเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงอีกทีหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี