โพลเผยคนไทย"เว้นระยะห่าง-อยู่บ้าน"ยังน้อย เหตุต้องออกไปทำงาน-ยิ่งนานยิ่งคิดถึงสังคม

เมื่อวันที่ 11 พฤษภามคม 2563 สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยแพร่ผลสำรวจ "การปฏิบัติตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 99,838 คน ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2 - 30 เม.ย.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) ปิดกิจการต่างๆ ที่ไม่จำเป็นรวมถึงควบคุมการเดินทางและการรวมกลุ่มอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนี้

1.ด้านการลดความเสี่ยง กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สามารถปฏิบัติตามในเรื่องการสวมหน้ากากปิดปาก-จมูก มากที่สุด โดยสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน เม.ย. 2563 พบว่าสูงถึงร้อยละ 91 รองลงมาคือการใช้เจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ล้างมือ ร้อยละ 87 การรับประทานอาหารแบบกินร้อนช้อนส่วนตัว ร้อยละ 86 อย่างไรก็ตาม การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) หรือเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1 - 2 เมตร พบว่าทำได้เพียงร้อยละ 65 และการระมัดระวังไม่เอามือจับบริเวณใบหน้า จมูกและปาก ทำได้เพียงร้อยละ 63

2.ด้านการออกจากบ้าน พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 47 ยังออกจากบ้าน รองลงมา ร้อยละ 42.1 อยู่บ้านและไม่มีใครมาหา และร้อยละ 10.9 อยู่บ้านแต่มีคนมาหา ทั้งนี้เมื่อถามต่อไปว่าออกจากบ้านเพื่ออะไรบ้าง พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 62.3 ไปทำงาน รองลงมา ร้อยละ 44.1 ไปด้วยเหตุผลจำเป็น เช่น ซื้ออาหาร สิ่งของอุปโภคบริโภค ไปพบแพทย์ และร้อยละ 6 เหตุผลด้านจิตใจและสังคม นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ยิ่งเวลาผ่านไปนานขึ้นคนยิ่งออกจากบ้านจากเหตุผลด้านจิตใจและสังคมมากขึ้น

3.มาตรการที่ควรดำเนินการต่อไปหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ อันดับ 1 ร้อยละ 99 ควรส่งเสริมการดูแลป้องกันตนเองต่อไป รองลงมา ร้อยละ 97.8 กักตัวผู้มาจากต่างประเทศ 14 วัน อันดับ 3 ร้อยละ รวมถึงการเว้นระยะห่างในที่สาธารณะและอาคารต่างๆ ร้อยละ 95.4 อันดับ 4 ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยเรื้อรังไม่ควรออกจากบ้าน ร้อยละ 92.5 อันดับ 5 งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 73.2 อันดับ 6 ส่งเสริมการทำงานจากบ้าน (Work from Home) ร้อยละ 72.3 และอันดับ 7 ร้อยละ 66.7 ผ่อนปรนมาตรการเดินทางในจังหวัดที่มีการระบาดต่ำ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 52.1 ระบุว่ามีรายได้ลดลง และร้อยละ 58 มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น

ขณะที่การสำรวจระหว่างวันที่ 23 - 30 เม.ย.2563 ซึ่งเริ่มมีการพูดถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยเพิ่มคำถามเรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด พบว่า จากกลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถาม 18,599 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 22.3 ระบุว่า มีแผนเดินทางออกนอกจังหวัดที่พักอาศัยอยู่ ในช่วง 1 สัปดาห์หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ รวมถึงการสำรวจระหว่างวันที่ 16 - 22 เม.ย.2563 มีกลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถาม 22,357 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 19.8 ระบุว่า พบเห็นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่ห้ามจำหน่าย