ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กระทรวงการอุดมศีกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เป็นหน่วยงานหลักในการเร่งรัดให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG: Bioeconomy, Circular Economy, Green Economy) ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง กระทรวง อว. ได้จัดระดมความคิดจากทุกภาคส่วนประกอบด้วยผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรม เอกชน หน่วยงานรัฐ มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และชุมชน / ประชาสังคม โดยมีผู้มีส่วนร่วมเข้าเสนอความคิดเห็นประมาณ 500 คน
การดำเนินการแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการจัดประชุมระดมความคิดของทุกภาคส่วน มุ่งเน้นยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง แบ่งเป็น 7 กลุ่มย่อย คือ 1. กลุ่มเกษตร โดยมี น.สพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็นประธาน 2. กลุ่มอาหาร โดยมี นายธีรพงศ์ จันศิริ เป็นประธาน 3. กลุ่มยาและวัคซีน โดยมี ศ. คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน 4. กลุ่มเครื่องมือแพทย์ โดยมี ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ เป็นประธาน 5.กลุ่มพลังงานวัสดุและเคมีชีวภาพ โดยมี นายเทวินทร์ วงศ์วานิช เป็นประธาน 6. กลุ่มท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมี นายกลินท์ สารสิน เป็นประธาน และ 7.กลุ่มเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา เป็นประธาน และส่วนที่สองเป็นการระดมสมองของผู้บริหารของบริษัทชั้นนำของไทยด้านเกษตร อาหาร และ พลังงาน มีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ เป็นประธาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ประธานกลุ่มขับเคลื่อน BCG ทั้ง 8 กลุ่ม ได้นำเสนอผลสรุปแนวทางการขับเคลื่อน และร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจนได้ข้อสรุปดังนี้ กลุ่มเกษตร ให้ความสำคัญกับการเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง , กลุ่มอาหาร ยกระดับคุณภาพอาหารทั้งอุตสาหกรรมเดิมและอาหารท้องถิ่น รวมถึงสร้างนวัตกรรมอาหารทั้งในกลุ่มอาหารเฉพาะกลุ่ม อาหารฟังก์ชั่น รวมถึงอาหารผู้สูงอายุ , กลุ่มยา วัคซีน และเครื่องมือแพทย์ เพิ่มความสามารถในการผลิตของประเทศในการพึ่งพาตนเอง , กลุ่มพลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ ต่อยอดใช้ประโยชน์จากผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงของเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม , กลุ่มเศรษฐกิจหมุนเวียนเน้นใช้ทรัพยากรทุกประเภท ได้แก่ ดิน น้ำ และวัตถุดิบในการผลิตอย่างคุ้มค่า
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อว. กล่าวว่า จะนำเสนอแนวความคิดดังกล่าวต่อนายกฯ เพื่อให้เกิดการใช้ BCG เป็นโมเดลในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้า โดยเพิ่ม GDP จาก 3.4 ล้านล้านบาท เป็น 4.4 ล้านล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพิ่มการจ้างงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจ BCG ที่เติบโต แข่งขันได้ในระดับโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี