สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38 (สพม.38) ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านเหนือสันเขื่อนภูมิพล เพื่อไปเยี่ยมเยียนและติดตามเรียนออนไลน์ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการภายใต้การนำของ นายสุดเขต สวยสม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38 พร้อมทีมงาน นายใจยอดดำเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะครู โรงเรียนสามเงาวิทยาคม อ.สามเงา จ.ตาก โดยมีคุณครูได้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียน เอาใบความรู้และใบงานไปให้เรียนเสริมช่วงปิดเทอม ก่อนที่จะเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้ด้วย
เหนือสันเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ขึ้นไปนั้นมีชุมชนเล็กๆ ตั้งอาศัยอยู่ 5 หมู่บ้าน คือ บ้านอูมวาบ บ้านโสมง บ้านสันป่าป๋วย บ้านหินลาด และบ้านนาไฮ โดยช่วงที่มีการก่อสร้างเขื่อนภูมิพล ชาวบ้านไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ แต่กลับอพยพหนีขึ้นไปอยู่ในที่สูงให้พ้นจากน้ำท่วม โดยประกอบอาชีพเลี้ยงวัว ทำประมง หาของป่า และทอผ้าขายซึ่งในแต่ละหมู่บ้านจะมีโรงเรียนสังกัด สพฐ.เป็นที่พึ่งให้กับเยาวชน บนยอดดอยได้มีสถานที่เรียนรู้
นายผดุงเกียรติ ปานแดง ครูโรงเรียนสามเงาวิทยาคม กล่าวว่า สภาพความเป็นอยู่ที่เหนือเขื่อนจะไม่มีไฟฟ้าใช้สัญญาณอินเตอร์เนตไม่ดี ทำให้การเรียนออนไลน์ไม่สะดวก ทางโรงเรียนจึงได้จัดทำแผนการสอน โดยจัดทำใบความรู้ใบงาน และเอกสารการเรียนรู้จาก DLTV มาให้นักเรียนได้ศึกษาก่อนเปิดเรียนจริง ส่วนการเดินทางในการมาบ้านนักเรียนแต่ละครั้งยากลำบากและบางครั้งถ้ามีลมแรงหรือฝนตก เรือไม่สามารถแล่นออกจากหมู่บ้านได้ก็ต้องนอนพักที่เหนือเขื่อน
นายใจ ยอดดำเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเงาวิทยาคม ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสันป่าป๋วย กล่าวว่า นักเรียนโรงเรียนสามเงาวิทยาคม มีความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม การเรียนออนไลน์ เด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอนั้น สามารถจัดการเรียนรู้ได้ และในส่วนของเด็กที่อยู่ห่างไกลและไม่พร้อม ทางโรงเรียนก็จัดทำใบความรู้เสริมให้คุณครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียนและสอบถามนักเรียน และเนื่องเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้เขื่อนภูมิพล เขื่อนของพ่อ ที่สร้างไว้ให้พวกเราทุกคน สิ่งที่โรงเรียนสามเงาวิทยาคม ตั้งปณิธานไว้คือ สร้างเด็กนักเรียนให้เป็นคนที่สมบูรณ์
สำหรับการเดินทาง หากจะไปยังหมู่บ้านสันป่าป๋วย จะต้องนั่งเรือจากสันเขื่อนใช้เวลา 45 นาที และเมื่อเสร็จภารกิจ จากหมู่บ้านสันป่าป๋วย คณะทำงานเดินทางต่อด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ขึ้นเขาลงห้วย บางช่วงเดินเท้า ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปยังหมู่บ้านหินลาด และหมู่บ้านนาไฮซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวกะเหรี่ยง หรือปกาเกอะญอ ที่นี่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ทั้งหมด
นางสาววิจิตรา แก่งสร้อยสมบูรณ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสามเงาวิทยาคม เปิดเผยให้ทราบว่า เรียนออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน แต่สัญญาณอินเตอร์เนตมีน้อยมาก รับสัญญาณได้เพียงบางครั้ง ครูสั่งงานทางเฟซบุ๊ค ทางไลน์ พอตอบกลับได้ แต่เรียนออนไลน์ไม่ได้ คุณครูเลยนำใบความรู้และใบงานมาให้ถึง
ที่บ้าน
นางสาวนิรวรรณ โยทา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสามเงาวิทยาคม บอกว่า เรียนผ่านสมาร์ทโฟนเช่นเดียวกัน รับสัญญาณได้บางครั้ง เลยมาตั้งดูข้างๆ มือ พลางทอผ้าไปด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง ใช้เครื่องทอผ้าแบบกี่เอว โดยมีคุณแม่สอนการทอผ้าอยู่ข้างๆ
เด็กหญิงชนาพร ทาสุ่ม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสามเงาวิทยาคม เล่าว่า ช่วงปิดเทอมและเรียนออนไลน์ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการช่วยคุณแม่ย่างปลา ซึ่งหาได้จากเขื่อนภูมิพล อันเป็นวิถีชุมชนของชาวบ้านที่อาศัยเหนือเขื่อน ส่วนการเรียนออนไลน์ ได้เรียนทางโทรศัพท์มือถือ คุณครูสั่งงานผ่านไลน์และเฟซบุ๊ค และใบงานที่คุณครูเอามาแจกให้ ส่วนตัวแล้วอยากให้เปิดเทอมเร็วๆ เพราะอยากเจอเพื่อนที่เรียนร่วมห้อง
“งานครูนั้นจัดเป็นงานสำคัญ เพราะเท่ากับเป็นการสร้างคนให้เป็นคนโดยสมบูรณ์ เยาวชนในปัจจุบันเป็นเยาวชนที่อุดมไปด้วยพลังกายพลังใจและพลังอยากรู้อยากเห็น อยากเปลี่ยนแปลง หากเขาได้รับการอบรมกล่อมเกลา ที่ถูกทาง เขาเหล่านั้นจะเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมือง ส่งเสริมให้ประเทศชาติรุ่งเรืองและมั่งคั่งยิ่ง” (พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตวิทยาลัยวิชาการศึกษา ประสานมิตร 13 พฤศจิกายน 2516)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี