‘ณัฏฐพล’ยันรร.ต้องปลอดภัย
ศธ.เปิดศูนย์คุ้มครองช่วยเหลือ
นร.-นศ.ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ศธ.เปิดศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน-นักศึกษาที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ชูนโยบายเชิงรุก ป้องกันปราบปรามล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาพร้อมคุ้มครองช่วยเหลือผู้ถูกกระทำทั้งทางร่างกาย-จิตใจ ‘เสมา1’ย้ำโรงเรียนต้องปลอดภัย พร้อมจับมือทุกภาคส่วนร่วมแก้ไขปัญหาอย่าง’รวดเร็ว รอบคอบ เด็ดขาด’เพื่อช่วยทวงความถูกต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ภายใต้มาตรการใหญ่3ด้านขับเคลื่อนต่อสู้อย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) ตั้งอยู่ ที่ชั้น 1อาคารรัชมังคลาภิเษก 2 กระทรวงศึกษาธิการเพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึง ปราบปราม ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดที่กระทำความผิด พร้อมสะสางปัญหาเก่า และยุติปัญหาใหม่ด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ เด็ดขาด อย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมโดยเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกระทำหรือผู้พบเห็นการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาร้องเรียนและร้องทุกข์ได้ทาง สายด่วน ศคพ. โทร. 02-007-0001
จากนั้น นายณัฏฐพล ในฐานะรมว.ศึกษาธิการได้มีการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศเพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินนโยบายให้ไปในทิศทางเดียวกัน ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี 5 ผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ได้แก่ องค์กรยูนิเซฟแห่งประเทศไทย,มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี,มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก,มูลนิธิศานติวัฒนธรรม และ องค์กรทำดีได้มอบข้อเสนอ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศต่อรมว.ศึกษาธิการด้วย
รมว.ศึกษาธิการกล่าวช่วงหนึ่งว่า โรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของนักเรียน ศธ.ต้องให้ความมั่นใจกับผู้ปกครองในเรื่องของความปลอดภัยให้ได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีขั้นตอนหลายอย่างที่ทำให้เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศไม่สามารถบริหารจัดการได้ วันนี้จึงได้ตั้ง ศคพ.ขึ้นมาเพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะมีครูส่วนน้อยที่มีปัญหา แต่ก็ไม่ควรจะวนเวียนอยู่ใน ศธ.ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม รวมถึงวางมาตรการให้บุคคลเหล่านี้โดนถอดใบประกอบวิชาชีพ ทั้งกรณีชั่วคราวและตลอดไป ตลอดจนการให้ออกจากราชการไว้ก่อน จนกระทั่งกระบวนการยุติธรรม มีการสอบสวนอย่างครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าศธ.นำกฎระเบียบของกระทรวงมาใช้อย่างเข้มข้นเพื่อแสดงถึงความตั้งใจในการต่อสู้กับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อช่วยทวงความถูกต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมและนำพื้นที่อบอุ่น ปลอดภัย กลับมาให้นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาทุกคนอีกครั้ง
“ศธ.พร้อมสร้างความมั่นใจ ให้ผู้ปกครองและนักเรียน ย้ำว่าผู้ถูกกระทำไม่มีความจำเป็นต้องยอมให้กับอำนาจของผู้มีอิทธิพล การที่ผู้กระทำผิดจะมาข่มขู่ หรือให้สินบนต่างๆเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในโรงเรียน ผมพร้อมที่จะนำผู้บริหาร บุคลากร ของ ศธ. ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อสู้กับเรื่องนี้อย่างเต็มที่”นายณัฏฐพล ย้ำ
ศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นหน่วยงานกลางของ ศธ.ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ.ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียนนักศึกษา และบุคคลซึ่งปฏิบัติงานอื่นในสังกัดหรือในกำกับ ศธ.
โดยมุ่งที่จะปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ เด็ดขาด ภายใต้มาตรการใหญ่ 3 ด้าน คือ1.มาตรการด้านการป้องกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับนักเรียนนักศึกษา โดยนั้นให้สถานศึกษาดูแลนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาในรับผิดชอบ ตลอดจนสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้ไม่เอื้อต่อการล่วงละเมิดทางเพศและการกระทำผิดอื่น ๆ
2.มาตรการด้านการปราบปราม เพื่อแก้ไขปัญหา สะสางปัญหาเก่า ยุติปัญหาใหม่ โดยหากสถานศึกษาหรือหน่วยงานทางการศึกษาพบว่ามีข้อร้องเรียนเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ หรือมีการเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะในวงกว้าง ผู้มีอำนาจคือเขตพื้นที่ต้องสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาย้ายไปประจำเป็นการชั่วคราว จากนั้นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงทันที และหากผลการตรวจสอบพบว่าข้อร้องเรียนนั้นมีมูลความจริง ให้ผู้มีอำนาจสั่งตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงและให้ผู้กระทำผิดออกจากราชการไว้ก่อน ขั้นตอนทั้งหมดมีเป้าหมายให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง แล้วรายงานหน่วยงานตันสังกัดส่วนกลางและแจ้งข้อมูลมายัง ศคพ. เมื่อ ศคพ. ได้รับเรื่องแล้วจะรีบเสนอไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเพื่อขอให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้กระทำผิดเป็นการชั่วคราว โดย ศคพ. จะเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยควบคู่กับการดำเนินการด้านคดีอาญาด้วย
และ3.มาตรการด้านการคุ้มครองและช่วยเหลือ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยานักเรียนนักศึกษาอย่างเป็นธรรม โดยกำหนดให้สถานศึกษาต้องประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลเยี่ยวยานักเรียนนักศึกษาผู้ถูกล่วงละเมิดอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที นอกจากนี้ยังต้องคุ้มครองผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศทุกคนให้ได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ไม่ละทิ้งให้เขาต้องอยู่ในสภาพยากลำบากโดยลำพัง และต้องประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทุนคุ้มครองเด็ก กองทุนยุติธรรม เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยานักเรียนนักศึกษาที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างรวดเร็ว
สำหรับนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศจากข้าราชการครูและบุคลากรในสังกัดหรือในกำกับ ศธ. หรือผู้พบปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน สามารถติดต่อร้องเรียนและร้องทุกข์ได้ทาง โทร.02-007-0001 หรือสายด่วนการศึกษา 1579 email:skp200200@gmail.com และเฟซบุ๊กเพจ :ศคพ.กระทรวงศึกษาธิการหรือติดต่อได้ด้วยตัวเอง ที่ศูนย์ ศคพ. อาคารรัชมังคลาภิเษก2ชั้น1 กระทรวงศึกษาธิการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี