อุตุฯเตือนทุกภาค
ยังมีฝนฟ้าคะนอง
ระวังน้ำฝนสะสม
พายุซัด15จว.ดับ5
กรมอุตุฯเตือนทุกภาคทั่วประเทศ ยังมีฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางพื้นที่ ผลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน เข้าไทย-อ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ด้านอธิบดี ปภ.เผยพายุใน 15 จังหวัดคลี่คลายแล้ว มีบ้านเรือนเสียหาย 4,109หลัง เสียชีวิต 5 ราย
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ 24ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00วันพรุ่งนี้(8ส.ค.)ภาคเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน ตาก สุโขทัย และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ภาคกลาง เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออกเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ ระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ด้าน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เผยว่าอิทธิพลจากพายุ“ซินลากู”ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ถึงปัจจุบัน (7 ส.ค.เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดวาตภัยในพื้นที่ 15 จังหวัด รวม 65 อำเภอ 285 ตำบล 1,139 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 4,109 หลัง ผู้เสียชีวิต 5ราย(นครศรีธรรมราช และภูเก็ต 1 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย) ผู้สูญหายจากเรือล่ม 2ราย (สุราษฎรธานี) แยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด คือ อำนาจเจริญ กับ สุรินทร์ รวม 6 อำเภอ 14 ตำบล 18 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 46 หลัง ภาคตะวันออก 2 จังหวัด คือ ตราด และจันทบุรี รวม 7 อำเภอ 9 ตำบล 37 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 114 หลัง ภาคกลาง 1 จังหวัด ดังนี้ สระบุรี เกิดวาตภัยใน 2 อำเภอ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง
ภาคใต้ 10 จังหวัด สุราษฎร์ธานี,พังงา,ระนอง,นครศรีธรรมราช,ชุมพร, กระบี่ , สงขาลา ,ตรัง,นราธิวาส ภูเก็ตรวม 50 อำเภอ 260 ตำบล 1,082 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 3,947 หลัง
นายชยพล กล่าวต่อว่า ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม การจ่ายเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี