นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงชุดเครื่องแบบเทศกิจใหม่ว่า ชุดเครื่องแบบของสำนักเทศกิจที่มีอยู่ชุดเดียว ขณะที่ของหน่วยงานอื่น อย่างสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมี 4-5 ชุด สำนักเทศกิจจึงได้ออกแบบชุดยูนิฟอร์มลำลองใหม่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยชุดใหม่นี้จะใส่ทุกวันอังคาร และวันศุกร์ เป็นชุดที่ออกแบบให้มีความคล่องตัวสูงเวลาลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ ต่างจากชุดยูนิฟอร์มปัจจุบันที่เป็นทางการไป โดยมี 2 แบบ สำหรับผู้บริหารสำนักและสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทั่วไป ชุดของผู้บริหารจะให้เสื้อปล่อยชายออกพร้อมมีเครื่องประดับบอกชั้นยศของผู้บริหารส่วนของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทั่วไปจะเป็นแบบเอาเสื้อเข้ากางเกง หมวกที่ใส่มี 2 แบบคือ แบบหมวกแก๊ป และหมวกเบร์เร่ต์เหมือนหน่วยรบทหารพิเศษ มีสีเขียวสีประจำกรุงเทพมหานคร โดยทั้ง 2 จะใส่ได้เหมือนกันทุกระดับชั้นเจ้าหน้าที่ ส่วนเข็มขัดทำด้วยผ้าหัวเข็มขัดไม่มีตราครุฑ เชื่อว่าชุดใหม่นี้จะช่วยปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เทศกิจ เป็นชุดคล่องตัวทะมัดทะแมงแบบชุดฝึกรบของทหาร

“ตอนนี้ต้องรองบประมาณของกรุงเทพมหานครออกมาก่อน ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจหลายคนแต่งแล้ว โดยคนที่แต่งตอนนี้ยอมควักเงินส่วนตัวสั่งตัดตามแบบ เมื่องบออกมาจะสั่งตัดให้เจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจทุกคนฟรีคนละ 2 ชุด ให้เลือกว่าจะเอาแบบเดิม 1 ชุด และชุดใหม่ 1 ชุด หรือจะเอาชุดใหม่ 2 ชุดเลยก็ได้ ชุดละประมาณ 1,800 บาท” นายสกลธี กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักเทศกิจมีแนวคิดสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจด้วยการออกแบบชุดเครื่องแบบลำลองใหม่ จากที่มีชุดเครื่องแบบของเทศกิจชุดเดียวมา 30 กว่าปี ตั้งแต่ก่อตั้งหน่วยงานในสมัย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม.เมื่อปี 2535 โดยมีความพยายามผลักดันโครงการมาตลอดจนมาสำเร็จในสมัยผู้ว่าฯพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้มีชุดเครื่องแบบเทศกิจใหม่ เปิดตัวเริ่มใช้ในวันสถาปนาสำนักเทศกิจครบ 35 ปี เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่เทศกิจประจำสำนักเทศกิจส่วนกลางประมาณ 300-400 คน และประจำสำนักงานเขต 50 เขต เกือบ 3,000 คน มีภารกิจเพิ่มขึ้นมากมาย อาทิ “เทศกิจชุมชน” ดูแลความปลอดภัยตามชุมชน, “กลับบ้านกลับเทศกิจ” มีรถเทศกิจบริการรับ-ส่งผู้ที่ทำงานกลับบ้านดึกตามซอยเปลี่ยว “เทศกิจ School Care” อำนวยความสะดวกการจราจรหน้าโรงเรียนที่มีปัญหาจราจรคับคั่ง คอยช่วยเด็กนักเรียนข้ามถนน ซึ่งเป็นภารกิจเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ชาวกรุงเทพฯ