บาปจะๆคาวัด! ชาวบ้านตรังร้อง เจอฤทธิ์‘สาวแสบ’แฝงตัวฉกเงินกฐินสร้างอุโบสถ
7 ตุลาคม 2563 จากกรณีมีการโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ว่า มีหญิงสาวยักยอกเงินกฐิน “วัดควนซาง” หมู่ที่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (7 ตุลาคม 2563) ภายในศาลาโรงทานสังฆานุวัตร วัดควนซาง หมู่ 9 ต.หนองบัว พระครูเกษม สังฆานุวัตร เจ้าอาวาสวัดควนซาง พร้อมด้วยคณะกรรมการทอดกฐินและชาวบ้านกว่า 30 คน มารวมตัวร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน เนื่องจากเงินทอดกฐินดังกล่าวจะนำไปก่อสร้างอุโบสถวัดประจำปี 2563 เนื่องในเทศกาลออกพรรษา โดยมีนางสว่างจิตต์ พึ่งเจียก อายุ 60 ปี เป็นประธานการจัดงานทอดกฐิน , นางสาวจิราภรณ์ พุ่งมณีสกุล อายุ 43 ปี เป็นกรรมการทอดกฐิน และตัวแทนชาวบ้านร่วมกันร้องขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 โดยทางวัดควนซางได้จัดให้มีการทอดกฐินประจำปี2563 เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างอุโบสถที่สร้างค้างคายังคงต้องใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท จึงจะก่อสร้างอุโบสถแล้วเสร็จ ระหว่างการจัดพิธีในช่วงของการนับเงินได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 50 ปี แต่งกายตามประเพณี ภูมิฐานหน้าตาดีสวมหน้ากากอนามัยเข้ามาช่วยนับเงิน ซึ่งคณะกรรมการที่นับเงินไม่เอะใจหรือสงสัยเพราะคิดว่าเป็นญาติกับคณะกรรมการ จึงปล่อยให้ช่วยนับเงิน หลังจากที่นับเงินเกือบจะแล้วเสร็จ สาวแสบมิจฉาชีพได้จังหวะเก็บซองใส่กระเป๋าหลบหนีลอยนวล และทางคณะกรรมการทอดกฐินได้มีการแจ้งความที่ สภ.รัษฎา แล้ว
น.ส.จิราภรณ์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีผู้หญิงคนหนึ่งได้เข้ามาในวัด เข้ามาอยู่ตั้งแต่เช้าตั้งแต่พี่ๆน้องๆชาวบ้านได้ช่วยกันทำกับข้าว ปรากฏว่าในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งๆกันอยู่ พอถึงเวลารับเงิน กดเงิน ใส่ซอง และแจ้งยอดเงิน ปรากฏว่ามีกรรมการผู้สูงอายุนั่งอยู่ 2 คน ผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามานั่งเลย ซึ่งในตอนนั้นทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นลูกๆหลานๆของคนในพื้นที่ แต่ผู้หญิงคนนี้ได้บอกกับคนอื่นๆว่าเขาเป็นเจ้าของรีสอร์ทอยู่ที่ จ.ภูเก็ต เขาสวมแมสเรียบร้อย และก็ได้มีการแลกเบอร์กับผู้ที่อยู่ในวัดด้วย ทำให้เราได้ติดตามต่อว่าเป็นใครก็ปรากฏว่าพอสืบไปมาเหตุการณ์ต่อเนื่องมีคนแจ้งข่าวมาว่าผู้หญิงคนนี้ประพฤติไม่เหมาะสมหลายอย่าง ซึ่งเงินที่หายไปประมาณ 1 แสนกว่าบาท
ในช่วงเกิดเหตุตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครไปโฟกัสในเรื่องตรงนั้น เพราะไม่เคยมีใครคิดว่าเงินในซองกฐินที่ทุกคนอนุโมทนามายื่นไว้บนโต๊ะ เหมือนที่เห็นในภาพจะมีโต๊ะสำหรับวางเงิน และบันทึกรายชื่อว่าใครเป็นคนจ่ายเงินเท่าไร ก็ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้นั่งอยู่ด้วยแล้วก็ช่วยแกะเงิน และมีพยานเห็นว่าได้หยิบซองเงินใส่กระเป๋าถือในภายหลังและใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะไป แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครคิดอะไรคิดว่าน่าจะเป็นซองเปล่าที่แกะแล้วรกกองอยู่บนโต๊ะหน้าเขา ตอนนี้ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วที่ สภ.รัษฎา และอยากฝากเตือนทุกๆวัดเพราะว่ามิจฉาชีพไม่ได้มีป้ายแปะไว้บอกเราว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ
ส่วนนางสว่างจิตต์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตัวเองกินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากเหนื่อยตั้งแต่การเตรียมงานมาตลอด และเรามีความผิดพลาดตรงที่ว่าปกติเราจะช่วยนับเงิน เพราะเป็นเหรัญญิก แต่ปีนี้ตนเองเป็นเจ้าภาพกฐิน และเราก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น รู้สึกปวดใจเจ็บใจหลายอย่าง ไม่มีใครเอะใจหรือพูดทักท้วงถึงผู้หญิงคนนี้ที่เข้ามานั่งนับเงินเลย ความรู้สึกของเราเสียใจอย่างมากหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้จึงฝากเตือนไปหลายวัดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเรา
ด้านพระครูเกษม สังฆานุวัตร เจ้าอาวาสวัดควนซาง กล่าวว่า อาตมาก็เป็นห่วง ซึ่งตอนที่กำลังนับเงินกันอยู่ อาตมาก็ได้จับไมค์และประกาศออกมาว่าให้ระวังมิจฉาชีพจะเข้ามาหลอกนับเงิน แต่คณะกรรมการทุกคนก็ไม่ได้นึกถึง และอาตมาก็ไม่ได้อยู่ในที่บริเวณตรงนั้น และทุกคนก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะลักษณะเขาคล้ายกับลูกสาวเจ้าภาพกฐินเหมือนกันแต่รูปร่างใหญ่กว่า ในวันนั้นเงินกฐินทั้งหมด 3 แสนกว่าบาท แต่หายไป 1.3 แสนบาท แต่จะให้บอกแน่นอนไม่ได้ ซึ่งเงินในการสร้างอุโบสถใช้งบประมาณ 2 ล้านกว่าจะแล้วเสร็จ และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอุทาหรณ์เป็นบทเรียนเพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี