30 ตุลาคม 2563 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่บ้านหนองจอก ต.หนองพวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำจักราชซึ่งน้ำจากลำน้ำจักราช ลำน้ำสาขาของลำน้ำมูล ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งโรงเรียนวัดหนองจอก ซึ่งมีครูและนักเรียนรวม 100 คน มวลน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมจนต้องหยุดการเรียนการสอนมากว่า 1 สัปดาห์ พร้อมกันนี้ได้มอบถุงยังชีพ ข้าวกล่อง น้ำดื่มให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 50 ชุด โดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางไป อ.โนนสูง , อ.พิมาย ซึ่งถูกน้ำท่วมหนัก พร้อมสั่งการในการช่วยเหลือ รวมทั้งมีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มขึ้น 2 ตัว เร่วระบายน้ำตลอดทั้งวันทั้งคืน   

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่าขณะนี้สภานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย พื้นที่ที่ยังคงต้องจับตาดูมีไม่กี่อำเภอ อาทิ อ.โนนสูง , อ.พิมาย , อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.จักราช ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูงอยู่ พื้นที่ส่วนใหญ่น้ำท่วม 40-50 ซม. แต่ในบางจุดระดับน้ำท่วมสูง 80 – 1 เมตร เนื่องจากยังคงมีน้ำฝนที่ตกลงมาค้างอยู่ตามท้องไร่ท้องนาเป็นจำนวนมาก น้ำดังกล่าวได้ไหลลงสู่ลำน้ำ และเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน จึงต้องเร่งผลักดันน้ำให้ผ่านจังหวัดนครราชสีมาไปโดยเร็ว คาดว่าช่วงปลายสัปดาห์หน้าสถานการณ์น้ำท่วม ทุกพื้นที่จะคลี่คลาย เนื่องจากพายุต่างๆได้ผ่านพ้นไป จึงไม่น่าจะมีน้ำฝนตกลงมาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน การดำเนินการต่อไป สั่งการให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาประชาชน  

สำหรับการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำต่างๆนั้น วันนี้จะ เตรียมพิจารณาเรื่องงดการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำทั้งลำตะคอง , ลำพระเพลิงง , ลำเชียงไกร และลำมูล เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งปีถัดไป จากปริมาณน้ำที่มีคาดว่าจะสามารถมีน้ำให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปี นาปรัง และทำการเกษตรอื่นได้อย่างน้อย 3-4 ปี  ถือเป็นข่าวดีของจังหวัดนครราชสีมา หลังจากเผชิญกับภัยน้ำท่วมตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ในส่วนของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองมีการประเมินสถานการณ์มวลน้ำขนาดใหญ่จากพายุ “โมลาเบ” ระหว่างวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง ปัจจุบัน ( 29 ต.ค. 2563) มีปริมาณน้ำเก็บกัก 347.757 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 110.58 % มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณ 1.99 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้ทำการระบายน้ำที่ 2.376 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งการระบายน้ำดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้ายท้ายน้ำแต่อย่างใด รวมไปถึงบริเวณที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองมีปริมาณต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตรยังสามารถรับน้ำได้อีก 27 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบกับปริมาณน้ำที่เคยท่วมขังได้ลงไหลสู่แม่น้ำมูลไปแล้ว ในส่วนของการระบายน้ำทางกรมชลประทาน ได้กำหนดแผนผันน้ำเก็บไว้ยังแก้มลิง และบึงสาธารณะ ตลอดจนบึงที่กรมชลประทานได้เตรียมไว้ เพื่อให้เกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในทุกกิจกรรมตลอดฤดูแล้งหน้า

ทั้งนี้กรมชลประทานได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเขื่อนลำตะคองเข้าทำการสำรวจสภาพของเขื่อนลำตะคอง รวมถึงอาคารชลประทานในพื้นที่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าตัวเขื่อนลำตะคองตลอดจนอาคารชลประทาน มีความมั่นคงแข็งแรงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้เป็นอย่างดี และยังคงสามารถรับน้ำได้ในอัตราที่กำหนดไว้ ขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หรือโทร.สอบถามได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา