สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) พิจิตร มีผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่ง 5 ราย คู่ที่น่าจับตาระหว่างหมายเลข 2 อดีตนายก อบจ.6 สมัย ฝ่ายน้ำเงินที่ผลงานประจักษ์กับสายตาประชาชนกับผู้ท้าชิงฝ่ายแดงตระกูลใหญ่ "ภัทรประสิทธิ์" หมายเลข 1 ที่ได้แรงสนับสนุนจากอดีตรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยถือว่าศึกมวยใหญ่แห่งเมืองชาละวัน
หลังจากที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิจิตร และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ทำการรับสมัครโดยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) พิจิตรจำนวน 5 คน คือ หมายเลข 1 พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร หมายเลข 2 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อดีตนายก อบจ.พิจิตร 6 สมัย ทีมเรารักพิจิตร หมายเลข 3 นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ทีมศิษย์หลวงพ่อเพชร หมายเลข 4 นายมาโนช วัฒนประสิทธิ์ จากทีมก้าวหน้าพิจิตร และหมายเลข 5 นางพัฒนียา มูลละ ผู้สมัครทีมอิสระ ทำให้จังหวัดพิจิตรมีจำนวนผู้สมัครนายก อบจ.5 คน
โฟกัสจับคู่ชกจากทั้งหมด 5 ราย เหลือการจับตาของคอการเมืองท้องถิ่นมองการสู้ศึกชิงตำแหน่งนายก อบจ.พิจิตร เหลือเพียง 2 รายที่มีการขับเคี่ยวแย้งชิงการชูกำปั้นเหลือที่หมายเลข 1 ฝ่ายมุมแดง ที่ขึ้นชกด้วยเสื้อสีเขียว คือ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร กับมุมน้ำเงิน หมายเลข 2 แชมป์เก่า 6 สมัย นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ทีมเรารักพิจิตร ที่ประชาชนชาวจังหวัดพิจิตรมองว่าเป็นการแย้งชิงของ 2 หมายเลขนี้เป็นหลัก ซึ่งทั้ง 2 หมายเลขต่างมีนโยบายและแรงสนับสนุนจากประชาชนชาวจังหวัดพิจิตร รวมถึงแรงผลักดันจากอดีตนักการเมืองหลากหลายระดับ ที่ร่วมสนับสนุนตำแหน่งแชมป์นายก อบจ.เมืองชาละวัน
ฝ่ายมุมแดง พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ หรือ ผู้กำกับ "กบ" ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร หมายเลข 1 อายุ 59 ปีเป็นบุตรชายของนางวิไลลักษณ์-นายวิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดพิจิตร เคยรับราชการเป็นตำรวจเป็น ผกก.สภ.วังทรายพูน ก่อนที่จะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในทายาท "ตระกูลภัทรประสิทธิ์" ที่มีพี่ชายชื่อนายวินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร โดยผู้สมัครรายนี้ได้แรงสนับสนุนจากพี่ชายและนางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย
รวมถึงนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.-อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังให้การสนับสนุนที่รวมรวมกันแล้วมีฐานเสียงอยู่ไม่น้อย และนอกจากนี้ยังมีสมบัติมูลค่าหลายร้อยล้านบาทจะมาล้มแชมป์เก่าให้ได้ด้วยหมัดน็อค คือความตั้งใจของผู้สมัครผู้ท้าชิง และสมาชิกทีม โดยได้โปรโมเตอร์หลายท่านทั้งอดีตนักการเมืองระดับชาติ คอยสนับสนุนและมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) พิจิตรเก่าบางส่วน ที่ย้ายค่ายมาซบกับค่ายนี้จึงส่งผลให้ได้แรงเชียร์ไม่น้อย
พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ หมายเลข 1 กล่าวว่า นโยบายของทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตรที่ยังคง ยึดมั่นของการเปลี่ยนแปลง จังหวัดพิจิตร โดยจะขอเข้าทำงานโดยยึดหลัก การบริหารจัดการ ในองค์กร ด้วยความโปร่งใส่ สุจริต และใช้งบประมาณถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีประชาชนท่องเที่ยวเมืองพิจิตร โดย ตั้งเจตนารมณ์ ว่า "จังหวัดพิจิตร ต้องมีการเปลี่ยนแปลง"
มาถึงแชมป์เก่า 6 สมัยมุมน้ำเงิน หมายเลข 2 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อายุ 60 ปีเต็มเพียงไม่กี่วัน ในทีมเรารักพิจิตร "พบง่ายใช้คล่องต้อง ชาติชาย" ยังถือว่า เป็นสโลแกนที่ใช้มาตั้งแต่ลสมัครหลายสมัย และยังคงใช้ได้มาโดยตลอดจากการฟิตซ้อมลงพื้นที่พบประกับประชาชน แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอดในการดำรงตำแหน่งถือเรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของประชาชน ทั้งวัยรุ่น วัยกลางคน รวมไปถึงผู้สูงอายุ ด้วยความเป็นกันเองติดดินรวมถึงผลงานที่สร้างความเจริญ ทั้งด้านบริหารจัดการน้ำทำการเกษตร บริหารจัดการน้ำท่วม น้ำแล้ง ด้านคมนาคม ด้านสุขภาพ เยาวชน ผู้สูงอายุ การศึกษา รวมถึงผลงานล่าสุดของปีนี้คือการป้องกันไวรัสโควิด 19 วัดโรงเรียนปลอดโควิด ทั้ง 12 อำเภอจนเป็นผลงานที่ประจักษ์ ต่อคนพิจิตร ที่เป็นเมืองสีขาวปลอดจากโควิด 1 ใน 9 จังหวัดของประเทศไทยที่ปลอดจากเชื้อ
นโยบายที่ต้องสานต่อการทำโครงการก็เห็นได้ว่าจะต้องมีกี่พัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เช่นการผลักดันแก้ปัญหาแม่น้ำยมที่มักจะเกิดเหตุการณ์ภัยแล้ง และอุทกภัยทุกปีโดยการพลัดดันโครงการทำเขื่อนขนาดใหญ่ กั้นแม่น้ำยม ที่ล่าสุดผลัดดันจนได้ 2 แห่งที่บ้านท่าแหตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ที่จะมีประโยชน์ในการเก็บน้ำในเขตอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และพื้นที่รอยต่อจังหวัด
ส่วนอีกแห่ง คือ เขื่อนดานน้อย ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นช่วงแม่น้ำยมตอนกลาง สอดคล้องกับเขื่อนยางจระเข้ผอมที่ปรับปรุงจากเขื่อนยาง มาเป็นเขื่อนไฮโดรลิค จนเก็บน้ำตอนกลางได้รวมไปถึงเขื่อนอีก 2 แห่งคือบ้านลำนัง ตำบลไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง และเขื่อนท้ายน้ำ ที่ตำบลบางลาย อำเภอบึงนาราง ที่อยู่ระหว่างการพลักดันอนุมัติโครงการเพื่อแก้ปัญหาแม่น้ำยมทั้งระบบในจังหวัดพิจิตร รวมถึงด้านคมนาคม เส้นทางการเดินทางถนนสายหลัก เอเชียสาย 11 ตากฟ้า –วังทองที่จะมีโครงการขยายเป็น 4 ช่องจราจร
ด้านปัญหาสุขภาพ ประชาชน ทั้งเยาวชน สูงอายุ ที่ได้ทำโครงการต่อเนื่องจัดตั้งวิทยาลัยผู้สูงอายุ ครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอของจังวัดพิจิตรจนจบหลักสูตรมาแล้ว 4 รุ่นรวมถึงโครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ และสุขภาพของผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ โดยการซ่อมแซมบ้านเรือนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขยายการศึกษาของเยาวชนด้วยการถ่ายโอนโรงเรียนมาอยู่ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เพื่อเด็กยากไร้ในพื้นที่เดินทางเข้ามาศึกษาในเมืองและพัฒนาด้านสุขภาพ ด้านกีฬาให้กับประชาชน และเยาวชนเพื่อห่างไกลยาเสพติด
อีกผลงานที่เห็นประจักษ์ต่อสายตาประชาชนทั้ง 12 อำเภอของเมืองพิจิตร คือการป้องกันไวรัสโควิด 19 ที่ต่างนำเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน เกษตรกรชาวสวนป้องกันจังหวัดพิจิตรใช้ระยะเวลากว่า 7 เดือนป้องกันทำความสะอาดวัดกว่า 469 วัดและโรงเรียนให้ปลอดจากโควิดจนเป็นจังหวัดสีขาว 1 ใน 9 จังหวัดของประเทศไทยที่ปลอดจากเชื้อจนได้รับฉายาอัศวิน "ชุดสีขาว ปลอดเชื้อโควิด" และอีกหลายผลงานที่เข้าถึงประชาชน แบบติดดิน
ส่วนผู้สมัครรายอื่นที่เข้ารวมวงท้าชิง คือ หมายเลข 3 นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ทีมศิษย์หลวงพ่อเพชร อดีตผู้สมัครนายก อบจ.เป็นเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ยังคงลงชิงตำแหน่ง ซึ่งใช้นโยบาย 1 สร้างโอกาส เสนอโครงการขอรับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร 2 พิจิตรเมืองอัจฉริยะ จัดตั้งศูนย์ข้อมูล ดาต้า วางโครงสร้างระบบสาธารณูปโภค 3 พิจิตรยั่งยืนทำโครงการสอดคล้องกับวิถีชุมชน โปร่งใสและตรวจสอบได้
หมายเลข 4 นายมาโนช วัฒนประสิทธิ์ จากทีมก้าวหน้าพิจิตร ซึ่งเป็นอดีต ส.อบจ.พิจิตร เขตอำเภอทับคล้อ ที่ทางกลุ่มก้าวหน้าสนับสนุนการลงชิงตำแหน่ง และหมายเลข 5 นางพัฒนียา มูลละ ผู้สมัครทีมอิสระ
ซึ่งการแข่งขันจากทั้งหมด 5 รายคาดว่าจะเหลือเพียง 2 รายจากการวิเคราะห์ของคอการเมืองระหว่างผู้ท่าชิงฝ่ายมุมแดง พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ หรือผู้กำกับกบ ทีมพัฒนาจังหวัดพิจิตร หมายเลข 1 กับมุมน้ำเงิน หมายเลข 2 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ทีมเรารักพิจิตรที่ทั้ง 2 คนน่าจะแลกหมัดท่ามกลางโปรโมเตอร์และกองเชียร์ที่ต่างมีดีทั้งคู่ อยู่ที่กรรมการจัดการแข่งขัน คือ คณะกรรมการการเลือกตั้งจะห้ามการเล่นนอกเกมส์ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้หรือไม่ และตัดสินในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันขึ้นชก ชิงตำแหน่ง "นายกเมืองชาละวัน" แห่งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี