คุกตลอดชีวิตหนุ่มปืนโหด

บุกยิงอดีตเมียดับคาห้างดัง

ศาลสั่งประหารหนุ่มปืนโหดฆ่าอดีตเมีย พนง.คลินิกเสริมความงาม แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเหตุจำเลยรับสารภาพ เผยแรงจูงใจโกรธแค้น-หึงหวง

วันที่ 7 ธ.ค. 2563 ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีความผิดต่อชีวิต หมายเลขดำ อ.1211/2563 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายดนุสรณ์ หรือ เจ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร จำเลย ในความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม , พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 ,33,80,288,289,371, 376,

ตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4,7,8 ทวิ ,72,72 ทวิ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2501 มาตรา 3 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519 ข้อ 3,6,7 รวม 7 ข้อหา โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2563 เวลากลางวัน จำเลยได้ใช้อาวุธปืนสั้นยี่ห้อโคลท์ ขนาด .45 (11 มม.)ยิง น.ส.ปิยานุจ ฉัตรไทย อายุ 28 ปี อดีตภรรยา ที่เพิ่งหย่าร้างกันซึ่งเป็น พนักงานคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งบริเวณชั้น4 ห้างเซ็นจูรี่ พลาซ่า ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กระสุนถูกที่ศีรษะ และลำคอ จนเสียชีวิต นอกจากนี้กระสุนยังพลาดไปถูกบริเวณสันมือข้างซ้ายของ น.ส.วิลาสินี ทีปั่น ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงานอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านพักญาติ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พนักงานสอบสวน

จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาที่ 155 / 2563 ลงวันที่ 18 ก.พ. 2563 ติดตามจับกุมจำเลยได้ที่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 4 ต. ห้วยแม่เพียง อ.แก่งกระจ่าง จ.เพชรบุรี ส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท แจ้งข้อหาดำเนินคดี ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าโจทก์มี น.ส.วิลาสินี ที่ปั่น ผู้เสียหายพนักงานคลินิก เบิกความเป็นประจักษ์พยานว่า วันเกิดเหตุจำเลยใส่สูทสีดำ พกพาอาวุธปืนเดินเข้ามาที่คลินิกแล้ว ยิงปืน 2 นัด ตนตกใจกลัวจึงรีบหมอบลงข้างเคาน์เตอร์

จากนั้นคนร้ายจึงยิงปืนอีก 3-4 นัด ซึ่งตนเองถูกยิงเข้าที่บริเวณข้อมือได้รับบาดเจ็บด้วย จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป โดยตนเองสามารถจดจำจำเลยได้เพราะผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่า ทะเลาะกับอดีตแฟน ขณะที่พยานโจทก์อีกรายซึ่งเป็นพนักงานคลินิกเบิกความว่า ขณะกำลังเดินออกมาจากห้องยา ได้ยินเสียงปืนและเสียงคนร้องจึงหันไปมองเห็นคนร้ายเดินอ้อมเคาน์เตอร์แล้วยิง น.ส.ปิยานุช ผู้เสียชีวิต ศาลเชื่อว่าพยานโจทก์ทั้งสองรายเบิกความไปตามความจริงและต่างเบิกความสอดคล้องกัน

นอกจากนี้ยังมีพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เบิกความ ว่า ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ที่ห้างเซ็นจูรี่ฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบเห็นคนกำลังช่วยกันปั้มหัวใจ น.ส.ปิยานุช ที่ถูกยิง แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้ว พบว่า น.ส.ปิยานุชเสียชีวิตจากกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณลำคอ และยังมีพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งบันทึกวิดีโอเคลื่อนไหว

โดยจำเลยให้การรับสารภาพและพยานหลักฐานทั้งหมดเชื่อว่าจำเลยจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงใช้เนื่องจากอ้างว่าโกรธเคืองและหึงหวงอดีตแฟนสาว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ประหารชีวิต,ฐานใช้เอกสารราชการปลอม จำคุก 1 ปี ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครองครองฯ จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ฯ จำคุก 2 ปี รวมโทษทั้งหมดแล้วให้ประหารชีวิต

อย่างไรก็ตาม จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต และให้จำเลยชดใช้ค่าขาดไร้อุปการคุณแก่บิดา มารดา ผู้ตาย 421,200 บาท และค่าปลงศพอีก 1 แสนบาท รวม ทั้งสิ้น 521,200 บาทด้วย โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว นายดนุสรณ์ หรือ เจ มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา