ความคืบหน้าการสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องในการทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด 19 ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดสรรเพื่อตอบแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ร่วมปฏิบัติงานด้านการสกัดกั้นการแพร่ระบาดในช่วงวิกฤติ ตั้งแต่ 27 มี.ค - 30 มิ.ย.2563 จำนวนกว่า 2,521ล้านบาทนั้น
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ได้เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง จตช. พล.ต.ท.เชษฏา โกมลวรรธนะ จตร. (หน.) พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.สตส เรียกประชุมผ่านระบบทางไกลกับรอง ผบช.ที่ทำหน้าที่จเรตำรวจของ บช.น. ตำรวจภูธรภาค 1-9 เพื่อติดตามผลการดำเนินการทางวินัยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินการ พบว่า ทุกกองบัญชาการ(บช.) มีข้าราชการตำรวจที่เข้าสู่กระบวนการทางวินัย ประมาณ 166 นาย จาก 17 จังหวัด และนครบาล ทั้งระดับ บก. ภ.จว และ ระดับสถานีตำรวจ โดยมีตั้งแต่ระดับ ผบก. ลงมาถึง ผบ.หมู่ ซึ่งมีการดำเนินการตามแต่มูลเจตนาของผู้กระทำผิด ตั้งแต่เบาไปถึงหนัก ทั้งการว่ากล่าวตักเตือน การภาคฑัณฑ์ การกักยาม การกักขัง 3 - 15 วัน และหนักสุดคือ การเสนอพิจารณาวินัยร้ายแรงซึ่งอาจจะเข้าสู่การดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
สำหรับ บช.ที่ลงฑัณฑ์ขั้นเบา ผบ.ตร ได้สั่งการให้ ทุก บช. รายงานผลมาให้กองวินัย ตร.ตรวจสอบความเหมาะสมกับมูลความผิดอีกครั้ง หากผลการลงฑัณฑ์ไม่เหมาะสม จะสั่งเพิ่มโทษต่อไป นอกจากนั้นได้สั่งการให้ รอง ผบช.ภ.1 ไปตรวจสอบ ภ.จว.อยุธยาและให้ รอง ผบช.ภ.2 ไปตรวจสอบ สภ.ใน จว.ระยอง ทุกแห่ง โดยละเอียดเพิ่มเติมแล้วรายงานผลโดยเร็ว
ในที่ประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ย้ำให้ ทุก บช.ระมัดระวังการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกประเภท โดยเฉพาะเบี้ยเลี้ยง คฝ. หากพบการกระทำผิดต้องถูกลงโทษ และมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้าย โดยให้ทุก บช.ไปตรวจสอบบัญชีเสนอแต่งตั้งให้เรียบร้อย โดยขั้นต่อไปจะต้องได้ข้อยุติภายในสิ้นปีว่า เข้าสู่การพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงอย่างไร หากสิ้นปียังไม่เสร็จสิ้น จะพิจารณาข้อบกพร่องคณะกรรมการฯด้วย นอกจากนั้นยังสั่งการให้ สตส.ลงพื้นที่ตรวจสอบคู่ขนานไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการกล่าวหาว่ามีการทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด 19 ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดสรรเพื่อตอบแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ร่วมปฏิบัติงานด้านการสกัดกั้นการแพร่ระบาดในช่วงวิกฤติ ตั้งแต่ 27 มี.ค - 30 มิ.ย.2563 จำนวนกว่า 2,521ล้านบาท โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงจากจเรตำรวจควบคู่กับการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกกองบัญชาการ ซึ่งล่าสุดเมื่อ 30 พ.ย.2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร ได้ประชุมเร่งรัดทุก บช.ให้เร่งดำเนินการโดยเด็ดขาด โดยให้หลักการไว้ 3 ข้อ คือ คืนความเป็นธรรมเยียวยา ถูกต้องตามระเบียบ และทุกคนรวมถึงสังคมพอใจ และให้เวลาทุก บช.ไปเร่งจัดการเข้าสู่กระบวนการทางวินัยภายใน 10 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี