วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. กล่าวถึงคดีหลงจู๊สมชาย ว่า ในส่วนของกองปราบปราม ผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้ติดตามจับกุมตัวนายน้อย วงษ์นิยม อายุ 70 ปี คนสนิทหลงจู๊สมชาย มีชื่อเกี่ยวพันกับบ่อนการพนันใน จ.ระยอง น.ส.ฤดี แซ่โง้ว อายุ 57 ปี ลูกพี่ลูกน้องหลงจู๊สมชาย นายดำรงค์ แซ่โง้ว อายุ 52 ปี และ น.ส.อริสา แจ้งสว่าง อายุ 50 ปี ภรรยานายดำรงค์ ทั้งสี่คนนี้ ทั้งหมดถูกออกหมายจับก่อนวันที่ 10 ก.พ.2564

รอง ผบก.ป.กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้น 5 เป้าหมาย 5 หมายจับ 10 จุดตรวจค้น เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 4 ราย คาดว่าน่าจะหลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้วหลังรู้ว่าตัวเองถูกออกหมายจับ ทั้งนี้กองปราบฯ ได้ประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 2 อยู่แล้ว นอกจากการตามตัวชุดสืบสวนกองปราบราม ยังได้ตรวจเส้นทางการเงินของกลุ่มนายสมชาย อย่างละเอียด เพื่อดูว่าไปแตะถึงใครบ้างจากนั้นจำนำมาวิเคราะห์ หาหลักฐานเชื่อมโยงก่อนนำตัวผู้ที่มีส่วนกับเส้นทางการเงินที่พบมาสอบปากคำหาที่มาที่ไปอีกครั้งนึง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด มีการข่าวดีรู้จักบุคคลหลายวงการ จึงเชื่อเมื่อรู้ว่าตำรวจจะเข้าจับกุมจึงได้หลบหนีไปก่อน ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าทั้งหมดยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ หรืออาจจะยังซ่อนตัวอยู่เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีทรัพย์สินเงินสดมากมาย คงตระเตรียมไว้ใช้ยามหลบหนีด้วย 

ส่วนสาเหตุที่นายสมชาย หรือหลงจู๊ ไม่ได้หลบหนีไปด้วยนั้น คาดว่าจะมีความมั่นใจว่าตำรวจไม่สามารถเอาผิดได้ จึงยอมให้ตำรวจจับกุมแต่โดยดี แต่ทั้งนี้ได้ขนสิ่งของและทรัพย์สินต่างๆ รวมทั้งกล้องวงจรปิดไปเก็บไว้ที่อื่นหมดแล้ว ทำให้ทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ตำรวจตรวจค้นยึดมาได้ จะอยู่ที่บ้านของนายดำรงค์ น้องชายเป็นส่วนใหญ่