ศาลอาญาคดีทุจริตภาค 4 พิพากษาพนักงานธุรการระดับ 5 โกงเงินคนพิการ จำคุก 82 ปี 246 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติชี้มูลความผิด
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 กลุ่มงานคณะกรรมการ กองบริหารคดี สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณามีมติเห็นชอบไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ตามความเห็นของพนักงานอัยการ
ในคดีนี้ที่ได้มีการกล่าวหา นาง จ. เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายการเงิน ระดับ 5 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นาง ป. พนักงานกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และนาง ส. เจ้าพนักงานธุรการ ระดับ 5 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ว่ากระทำการทุจริตในภาครัฐ
กล่าวคือ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 อาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่เขียนและจ่ายเช็คเป็นชื่อของตน โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า "หรือผู้ถือ" ออก และไม่ขีดคร่อมเช็ค อีกทั้งเมื่อได้รับเงินที่ลูกหนี้คนพิการชำระหนี้ทางไปรษณีย์ธนาณัติ แล้วไม่นำเงินเข้าบัญชี นอกจากนี้ ยังร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นำเช็คซึ่งต้องจ่ายเป็นเงินกู้ยืมให้แก่คนพิการที่ขอกู้เงินจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แต่กลับเบียดบังเงินดังกล่าวไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต และผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ได้เบียดบังเงินที่ลูกหนี้คนพิการชำระหนี้เงินกู้ให้แก่กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต
คณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณาในคราวประชุมครั้งที่ 50/2563 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และครั้งที่ 74/2563 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 มีมติว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 กระทงละ 5 ปี จำเลยที่ 2 จำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 กระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 41 กระทง เป็นจำคุก 82 ปี 246 เดือน และคงจำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 1 ปี 8 เดือน รวม 35 กระทงเป็นจำคุก 35 ปี 280 เดือน เมื่อรวมทุกกระทงแล้วคงให้จำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 50 ปี จำเลยที่ 3 รวม 4 กระทง คงจำคุก 8 ปี 24 เดือน
พฤติการณ์การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ซึ่งพนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามเต็มตามฟ้อง โดยไม่รอการลงโทษจำคุกเนื่องจากเป็นการกระทำที่ร้ายแรง ชอบด้วยข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นควรไม่อุทธรณ์ ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติเห็นชอบไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ตามความเห็นของพนักงานอัยการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี