วันที่ 1 มีนาคม 2564 เวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 9 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ,พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 ,พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 , พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.9 ,พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ได้เปิดแถลงข่าวการติดตามจับกุมตัวนายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.6 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จว.พัทลุง ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.68/2564 ลงวันที่ 28 ก.พ.64
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 27 ก.พ.64 เวลาประมาณ 06.45 น. สภ.บางกล่ำ ได้รับแจ้งเหตุพบ รถจยย.ล้มและมีหญิงสาว นอนเสียชีวติอยู่ที่บริเวณร่องคูน้ำ กลางถนนสายเอเชีย ม.5 ต.ท่าช้างอ.บางกล่ำ จว.สงขลา จึงได้ทำ การตรวจสถานที่เกิดเหตุพบว่าผู้ตายชื่อ"น้องนิหน่า" อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ นอนเสียชีวิตสภาพศพถูก รถจยย.ทับอยู่ที่ศีรษะและลำตัวท่อนบน ในที่เกิดเหตุยังพบรองเท้าแตะสีชมพูแบบผู้หญิง และรองเท้าแตะแบบผู้ชายยี่ห้อ แอดด้า สีน้า เงิน ตกอยู่ใกล้ศพผู้ตาย
จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 , พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา,ร่วมกับ ตำรวจ สภ.บางกล่ำ และชุดสืบ สภ.บางกล่ำ ทำการสืบสวนสอบสวนแกะรอบติดตามคดีนี้ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่ผู้ตายเดินทางมาถึงจนถึงที่เกิดเหตุ ทราบยานพาหนะของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุในคดีนี้คือรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า สีเทา ทะเบียน กง 856 ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งคัน ดังกล่าว คือ นายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี ชาวจว.พัทลุง โดยเมื่อเปรียบเทียบภาพชายที่ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวจากภาพในกล้องวงจรปิด กับภาพบัตรประชาชนของนายประถม พบว่ามีลักษณะตำหนิรูปพรรณ หน้าตาเหมือนกับนายประถมทุกประการ จึงเชื่อว่านายประถมเป็นคนร้ายในคดีนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุม ของ บก.สส.ภ.9 , กก.สส.ภ.จว.สงขลา และ สภ.บางกล่ำ โดยการนำของ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.ฯ ได้ร่วมกันติดตามตัวนายประถม บ้านพักที่ อ.กงหรา จว.พัทลุง และติดตามวัตถุพยานที่ใช้ในการกระทำผิด และทรัพย์สินของผู้ตายตามสถานที่ต่างๆ จำนวนหลายแห่ง พร้อมกับได้เชิญตัวมาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ ต่อมา พงส.สภ.บางกล่ำ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจับกุมนายประถม เอียดขาว ผู้ต้องหารายนี้
ต่อมา ศาลจังหวัดสงขลา ได้อนุมัติจับกุมนายประถม เอียดขาว จากนั้นจึงแสดงหมายจับดังกล่าวให้ผู้ต้องหาดู สอบถามแล้วผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น จึงร่วมกันควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพงส.สภ.บางกล่า เพื่อดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตูฆ่าผู้ตายในคดีนี้โดยการขับรถเฉี่ยวชน รถจยย.ของผู้ตายจนตกคูน้ำ กลางถนน แล้วทำร้ายผู้ตายโดยการชกท้องผู้ตายจำนวน 3 ครั้งแล้วข่มขืนผู้ตายจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้งแล้วชิงเอากระเป๋าสะพายของผู้ตายได้เงินสด จำนวน 1,300 บาท
จากนั้นได้ใช้เหล็กสำหรับใช้เปลี่ยนล้อรถที่เตรียมมา ตีที่ใบหน้าของผู้ตาย ประมาณ 2-3 ครั้งจนผู้ตายเสียชีวิต แล้วได้นำรถจยย.ของผู้ตายมาทับศพของผู้ตายบริเวณใบหน้าและลำตัวท่อนบน เพื่อทำให้ดูว่า เป็นการเกิดอุบัติเหตุรถตกคูเสียชีวิต หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตสีแดงของผู้ตายที่สวมใส่อยู่เพื่อเช็ดน้ำอสุจิของตน แล้วนำไปทิ้งในเขต ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จว.สงขลา จากนั้นนำเหล็กที่ใช้ตีผู้ตายไปล้างคราบเลือดเพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนนำไปเก็บไว้ในช่องเก็บของหลังเบาะนั่งข้างคนขับเหมือนเดิม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายประถม ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม รือรับของโจร และฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถคลี่คลายตามจับกุมคนร้ายใจโหดได้ภายใน 26 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าเคยต้องคดีพรากผู้เยาวอ์ายุกว่า 15 ปี เพื่อการอนาจารของ สภ.บางกล่ำ เมื่อปี 2545
ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ได้ดูกล้องวงจรปิดของในปั้มเพื่อตามแกะรอยคดีนี้ พร้อมกับเราตัดเล็บของผู้ตายไปตรวจสอบพบหลักฐานสำคัญคือ ผิวหนังของคนร้ายติดอยู่ที่ซอกเล็บของผู้ตาย เบื้องต้นเสียชีวิตจากการถูกตีด้วยเหล็กขันน็อต ส่วนหลักฐานอื่นอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวม ต้องรอผลการตรวจสอบ แต่จากหลักฐานเพียงแค่นี้ก็ทำให้ศาลออกหมายจับ และตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้ว อย่างไรก็ตามคดีสะเทือนขวัญในลักษณะในพื้นที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นจะต้องหาทางปรับปรุงเรื่องไฟส่องถนน ซึ่งตนจะไประสานกับทางฝ่ายปกครองต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดหลักฐานมัด! พบผู้ต้องสงสัยขับรถเติมน้ำมันช่วงเวลาเดียวกับ'น้องนิหน่า' ก่อนพบกลายเป็นศพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี