คลังขยายเวลา‘เราชนะ’
ช่วยกลุ่มผู้เปราะบาง
ส่วน‘ม.33เรารักกัน’
ลงทะเบียนภายใน7มี.ค.
เพจ “ไทยคู่ฟ้า” เตือน โค้งสุดท้าย ลงทะเบียน ม.33เรารักกัน ภายใน 7 มีนาคมนี้ ด้านกระทรวงการคลัง สั่งขยายเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะสำหรับประชาชนกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2564
เพจ”ไทยคู่ฟ้า”เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ระบุ ใกล้ปิดลงทะเบียนโครงการ “ม.33 เรารักกัน” ที่เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ลงทะเบียนรับสิทธิเงินช่วยเหลือค่าครองชีพจากรัฐบาล คนละ 4,000 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน www.ม33เรารักกัน .com ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุด ยอดผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ มีจำนวนทั้งสิ้น 8,087,637 ราย ย้ำกันตรงนี้สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน จะต้องรีบลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 7 มี.ค. 64
จากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศผลผู้ได้รับสิทธิในวันที่ 15 มี.ค. 64 โดยจะเริ่มโอนวงเงินสิทธิ 1,000 บาท ในวันที่ 22 มี.ค. 64 หลังจากนั้นจะโอนเข้า 1,000 บาท ทุกวันจันทร์ จนครบ 4,000 บาท
. สำหรับผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนไม่ผ่าน สามารถขอทบทวนสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน .com ได้ในวันที่ 15 - 28 มี.ค. 64 กรณีมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ หรือโทร. สายด่วน 1506
#ไทยคู่ฟ้า #รวมไทยสร้างชาติ #ร่วมต้านโควิด19
วันเดียวกัน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีนโยบายให้มีการดูแลกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงคนชราที่มีปัญหาทางกายภาพ เนื่องจากยังมีประชาชนกลุ่มดังกล่าวบางส่วนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ กระทรวงการคลังจึงได้พิจารณาขยายระยะเวลาการปิดรับลงทะเบียนออกไปจากวันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นวันที่ 26 มีนาคม 2564โดยระหว่างวันที่ 6–7 มีนาคม 2564 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) จะปิดระบบลงทะเบียนเพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและจะเปิดระบบรับลงทะเบียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องที่เพื่อดำเนินการประสานการจัดหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ดำเนินการรับลงทะเบียน นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือในการรับลงทะเบียนให้แก่กลุ่มดังกล่าวให้ครอบคลุมต่อไป
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการฯณวันที่ 5 มีนาคม 2564 ดังนี้ 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคนได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน 34,137ล้านบาท 2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่งและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯแล้วมีจำนวนมากกว่า 16.5 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน43,442 ล้านบาท และ 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯระหว่างวันที่ 15– 21 กุมภาพันธ์ 2564 และผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 0.5 ล้านคน ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์โครงการฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.7 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 77,579 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯรวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี