โดนยกภาค! เปิดยศ 253 ตำรวจส่อถูกสอบโยง‘บ่อนตะวันออก’

ความคืบหน้ากรณีการดำเนินการทางวินัยตำรวจเกี่ยวกับบ่อนพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ระบุว่าอยู่ระหว่างขออนุมัติผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกนายตำรวจ 253 นาย ที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่า ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกรณีบ่อนการพนันในพื้นที่มาแจ้งข้อกล่าวหา ตามคำสั่ง 234 โดยเป็นระดับผู้บัญชาการถึงสารวัตร 53 นาย และระดับรองสารวัตรถึงผู้บังคับหมู่ 200 นาย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ทั้งสืบสวนภูธรภาค 2 , ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ระยอง , กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี , กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดระยอง , สถานีตำรวจภูธรระยอง และสถานีตำรวจภูธรบางละมุง ซึ่งคณะกรรมการรายงานผลการสืบสวนพาดพิง เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสั่งดำเนินการทางวินัย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายพลยันหัวหมู่! เตรียมเรียก 253 ตำรวจเอี่ยว‘บ่อนตะวันออก’แจ้งข้อหาเพิ่ม)

ล่าสุดมีรายงานถึงรายชื่อข้าราชการตำรวจตามเอกสารแนบท้าย มีเป็นจำนวนมากถึง 253 นาย มีทั้งระดับผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ รองผู้บังคับการ ผู้กำกับการ ไล่ลงมาจนถึงระดับรองสารวัตรและผู้บังคับหมู่ของหน่วยต่างๆในสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 เช่น นายตำรวจระดับผู้บัญชาการ ยศ พล.ต.ท. 2 นาย , รองผู้บัญชาการ ยศ พล.ต.ต. 6 นาย , ผู้บังคับการ ยศ พล.ต.ต. 3 นาย และรองผู้บังคับการ ถึงผู้กำกับการ ยศ พ.ต.อ. มากกว่า 20 นาย เป็นต้น ซึ่งขณะนี้หนังสือดังกล่าวอยู่ระหว่างการประมวลเรื่องของกองวินัย เพื่อเสนอต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการต่อไป

ขณะที่ก่อนหน้านี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดย พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานกรรมการ ปปง. , พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.แถลงยึดและอายัดทรัพย์เครือข่ายบ่อนพนันรายใหญ่ ได้แก่ บ่อนการพนัน ต.มาบตาพุด จ.ระยอง และบ่อนการพนัน RJ (อาร์เจ) อ.เมือง จ.ระยอง ของนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย กับพวก และของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ , น.ส.บานเย็น ชาญนรา มารดานายเสี่ยโป้ กับพวกรวม 430 รายการ เช่น เงินในบัญชีธนาคาร เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ ยานพาหนะ ห้องชุด ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปปง.ตรวจพบเส้นทางการเงินของนายเสี่ยโป้ และนายสมชาย มีความเชื่อมโยงกัน จึงใช้กฎหมายฟอกเงินตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยังพบบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 100 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากธุรกรรมมีความเชื่อมโยงกัน ก็เข้าข่ายความผิดฟอกเงิน