72 ชาวเมียนมา “สุดทรหด” นอนป่าบนเขานาน 3 วัน หวังลอบเข้าทำงานในไทย จ่ายค่าหัวให้เพื่อนร่วมชาติไปแล้ว 1.2-1.5 หมื่นบาทต่อหัว แต่สุดท้ายทนหิวไม่ไหว ตัดสินใจลงจากเขา โดนรวบยกชุด เผย 4 วัน “กาญจนบุรี” จับได้เกือบ 200 คน ลือหมู่บ้านฝั่งเมียนมาแทบร้าง
29 เมษายน 2564 พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ (กกล.สุรสีห์) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ (29 เมษายน 2564) เจ้าหน้าที่หมวดลาดตระเวน (มว.ลว.) ที่ 4 ประจำจุดตรวจร่วมช่องเขาหนีบ หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร่วมกับกองร้อยเคลื่อนที่เร็ว (ร้อย.คร.) กกล.สุรสีห์ , ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ , ทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.) กองกำลังสุรสีห์ ที่ 105 , ร้อยทหารพราน (ร้อย.ทพ.)ที่ 1115 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกันออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปรามบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จนกระทั่งไปถึงบริเวณป่าบนยอดเขาที่เป็นสันแดน ท้องที่บ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่พิกัด NR 192405 พบกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายหญิงและเด็กเป็นจำนวนมากนั่งหลบซ่อนตัวอยู่ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังพร้อมแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ได้สวมชุด PPE ในการตรวจวัดอาการไข้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการตรวจวัดเบื้อต้นทุกคนมีอุณหภูมิในร่างกายเป็นปกติ ไม่เกิน 37.5 องศาฯ
จากนั้นจึงคุมตัวแรงงานทั้งหมดเดินเท้าลงมาจากยอดเขา โดยแรงงานที่ถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้มีจำนวน 72 คน เป็นชาย 42 หญิง 24 และบุตรหลานของแรงงานที่ยังเป็นเด็กอีก จำนวน 6 คน โดยทั้ง 72 คนไม่มีเอกสารหรือหนังสือเดินทางที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด
เบื้องต้นกลุ่มแรงงาน ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับนายหน้าหางานที่เป็นชาวเมียนมาด้วยกัน โดยพวกตนว่าจ้างให้นำพาเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ รวมทั้ง จ.ราชบุรี และ กทม. โดยทุกคนได้จ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าไปแล้วคนละ 12,000-15,000 บาท
หลังจากตกลงและจ่ายเงินไปแล้ว นายหน้าจึงได้นำพาเดินลัดเลาะมาตามชายป่าและหุบเขาจาก จ.ทวาย ประเทศเมียนมา ข้ามมาหลบซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาสันแดนที่อยู่ฝั่งไทย เมื่อมาถึงที่หลบซ่อนตัว นายหน้าได้เดินทางกลับ พร้อมกับแจ้งว่าจะมีคนขับรถมารับไปทำงานอีกทอดหนึ่ง ซึ่งพวกตนรออยู่บนเขานานถึง 3 วัน 3 คืน แต่ไม่มีใครมารับ อีกทั้งน้ำและอาหารที่เตรียมมาก็หมด ทุกคนเริ่มหิว จึงตัดสินใจเดินลงมาจากยอดเขาเพื่อมาหาอาหารและน้ำน้ำดื่ม สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว
หลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในเบื้อต้น เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่า ปัจจุบันหมู่บ้านของชาวเมียนมาที่อยู่ทาง จ.ทวาย และใกล้เคียง เริ่มจะกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว เนื่องจากประชาชนได้เก็บข้าวของอพยพหนีออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากเกรงว่ากองกำลังทหารเมียนมา จะนำกำลังเข้าโจมตีด้วยอาวุธปืนหนัก ซึ่งจะสังเกตได้ว่าแรงงานชาวเมียนที่ถูกจับกุมในวันนี้ ต่างเดินทางมาจาก จ.ทวาย เช่นเดียวกันกับที่ถูกจับกุมในพื้นที่หมู่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค และทุกคนที่ถูกจับต่างก็มีกระเป๋าสัมภาระ ประเภทเสื้อผ้าเครื่องใช้ครบกันทุกคน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าแรงงานชาวเมียนมาที่ถูกทางการไทยจับตัวได้ทั้ง 4 วัน รวมทั้งหมด จำนวน 191 คน เป็นผู้อพยพออกจากบ้านเรือนข้ามแดนมาอาศัยประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากการยิงปะทะกันระหว่างทหารเมียนมาก็เป็นไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี