จากกรณีสื่อโซเชียลได้แชร์คลิปรถบรรทุกหัวลาก 2 คันที่บรรทุกท่อเหล็กในลักษณะวางขวางตัวรถและล้นออกมาขวางถนน และบางช่วงได้แซงขวาเพื่อหลบรถเก๋งที่วิ่งอยู่เลนซ้าย ซึ่งค่อนข้างอันตราย และขวางทางรถที่ขับตามหลังมา ซึ่งในภาพระบุว่าเกิดขึ้นบนถนนสายเอเชียตรงเนิน 491 อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : มันเกินไปจริงๆ! ชาวเน็ตงงตาแตก คลิปรถบรรทุกพ่วงทำแบบนี้ได้อย่างไร?
24 พ.ค.64 ตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.ท.วินัย ธนะโชติ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจทางหลวง 7 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และสถานีตำรวจทางหลวง 4 จ.ชุมพร กองบังคับการตำรวจทางหวงและตำรวจจราจร สภ.สะเดา ได้ติดตามตัวคนขับรถบรรทุกหัวลากทั้งสองคันมาสอบสวนแล้วที่ สภ.สะเดา ทราบชื่อ นายสมพร จำปาทาสี อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกหัวลากคันหลังตามคลิป และนายประยูร ขันงูเหลือม อายุ 41 ปี คนขับรถบรรทุกคันหน้า หลังจากที่อุปกรณ์ที่บรรทุกมาไปส่งที่ไซร์งานก่อสร้างในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
จากการสอบสวนนายสมพร คนขับรถบรรทุกคันหน้าที่ปรากฏในคลิป เล่าว่าตอนนั้นกำลังขับรถบรรทุกอุปกรณ์ระบบท่อไอน้ำจาก จ.สมุทรปราการ เพื่อไปส่งที่โรงงานใน อ.สะเดา ซึ่งอุปกรณ์นี้จำเป็นต้องวางขวางตัวรถอย่างเดียววางตามความยาวรถไม่ได้
โดยขับออกมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ในช่วงกลางวันเพราะจะปลอดภัยกว่าในช่วงกลางคืนซึ่งสามารถมองเห็นเส้นทางได้ว่ามีอะไรขวางบ้าง และจริงๆแล้วจะมีทั้งรถนำหน้าและรถปิดท้ายด้วย รวมทั้งจะมีคนคอยบอกทางตลอดว่าข้างหน้ามีอะไรบ้างและมีรถตามหลังจะแซงหรือไม่
แต่ช่วงที่มีคนถ่ายคลิปเป็นจังหวะที่มีรถเก๋งวิ่งออกจากริมถนนจึงต้องตีรถขึ้นเลนขวาเพื่อแซงจึงทำให้ดูเหมือนว่าขวางทางและที่แซงรถเก๋งก็ดูแล้วว่าอุปกรณ์ที่บรรทุกมาอยู่สูงไม่โดนรถเก๋งแน่ กระทั่งวิ่งมาถึงที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และนำของไปส่งที่ไซร์งานก่อสร้างอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนและลงบันทึกคำให้การเอาไว้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถบรรทุกทั้งสองคันโดยจะดูว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี