ราชทัณฑ์ แจง"เพนกวิน"ฟ้องกรรมาธิการป.ป.ช.ถูกเจ้าพนักงานเรือนจำฟังการสนทนาเป็นไปตามระเบียบฯ แต่ทนายความสามารถขอคุยกับผู้ต้องขังเป็นความลับได้ ยันอาหารในเรือนจำผ่านการประเมิน
วันที่ 18 มิถุนายน 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีแกนนำราษฎร ไปชี้แจงต่อคณะกมธ. ป.ป.ช. ถึงการดักฟังและคุณภาพอาหารในเรือนจำแย่ว่า ตนในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการเยี่ยมการติดต่อของบุคคลภายนอกกับผู้ต้องขัง และการเข้าดูกิจการ หรือติดต่อการงานกับเรือนจำ พ.ศ. 2561 ข้อ 9 (5) กำหนดไว้ชัดเจนว่าบุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขังต้องยินยอมให้เจ้าพนักงานเรือนจำฟังการสนทนา บันทึกภาพ หรือเสียงและตัดการสื่อสาร หากเห็นว่าข้อความที่สนทนาเป็นไปโดยไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี ข้อ 18 ระบุว่า หากทนายความต้องการจะสงวนข้อความที่พูดกับผู้ต้องขังเป็นความลับให้แจ้งเจ้าพนักงานเรือนจำทราบ ซึ่งในกรณีของนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน ไม่มีทนายความที่ขอใช้ระเบียบในข้อนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์มีแนวทางปฏิบัติในการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังที่แจ้งให้ทนายความและญาติถือปฏิบัติอย่างชัดเจน
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า 2. กรณีเรื่องการจัดเลี้ยงผู้ต้องขัง ทางเรือนจำปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยมีคณะกรรมการจัดซื้อ โดยวิธีคัดเลือกและมีคณะกรรมการตรวจรับโดยเรือนจำได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าอาหารดิบ 44.17 บาท/คน/วัน ค่าข้าวสาร 6.42 บาท /คน/วัน (380 กรัม /คน/วัน) และเรือนจำจัดเมนูตามคำแนะนำของนักโภชนาการของทัณฑ สถานโรงพยาบาลที่ต้องมีการคำนวณปริมาณแคลอรี่ และคุณภาพทางโภชนา การที่เพียงพอต่อผู้ต้องขังในแต่ละมื้อ รวมทั้งเรือนจำได้ให้หน่วยงานสาธารณ สุขภายนอกเข้าตรวจประเมินปีละ 2 ครั้ง โดยเรือนจำผ่านเกณฑ์ประเมินทั้งสองครั้ง สำหรับในส่วนของอาหารอิสลาม เรือนจำได้รับการประเมินผ่านเกณฑ์รับรองอาหารฮาลาล
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า 3. กรณีการไม่สามารถสั่งซื้ออาหารพิเศษได้ ขอเรียนว่า ผู้ต้องขังทุกคนสามารถ ซื้อสินค้าอุปโภค - บริโภค ในร้านค้าย่อยในเรือนจำได้ รวมทั้งสามารถให้ญาติซื้อฝากจากร้านสงเคราะห์ฯ ภายนอกของเรือนจำ ในอัตราวันละ 500 บาท แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ จึงเพิ่มเป็นวันละ 600 บาท
ในกรณีของนายพริษฐ์ เนื่องจากประกาศ อดอาหารเรือนจำจึงนำตัวมาคุมขังที่สถานพยาบาล ชั้น 2 ร่วมกับผู้ต้องขังอื่น เพื่อเฝ้าระวังอาการและในการสั่งซื้ออาหารของสถานพยาบาล จะให้ผู้ต้องขังบันทึกขออนุญาตซื้ออาหารตามที่มีจำหน่ายตามร้านสงเคราะห์ฯ ในเรือนจำ ซึ่งในส่วนของนายพริษฐ์ ไม่มีการจัดซื้ออาหารแต่อย่างใด เนื่องจากประกาศอดอาหาร แต่ในกรณีของนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ขณะที่ถูกควบคุมตัว บิดาและมารดาได้มาซื้อของใช้และอาหารให้เป็นประจำ ต่อมาได้ประกาศอดอาหาร ทัณฑสถานหญิงกลางได้จัดเตรียมอาหารสำหรับจัดเลี้ยง แต่นางสาวปนัสยา ปฏิเสธ ทั้งนี้ มารดาของนางสาวปนัสยา ได้สั่งซื้อเครื่องดื่ม เช่น นมหรือน้ำหวานให้แก่นางสาวปนัสยา โดยตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี