เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2564 ภายในวิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่องทองคำ ผู้อำนายการโรงพยาบาลเกาะสมุย นายอภิเดช พรหมคุ้ม สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อยรับ และพาชมขั้นตอนการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนในรอบนี้เป็นการฉีดวัคซีนแอสต้าเซเนก้า  โดยมีผู้ที่อาศัยบนเกาสะสมุยทยอยเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีน รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยบนเกาะสุมย สำหรับการบริหารจัดการในการฉีดวัคซีนเป็นการผนึกกำลังของสามเกาะในรูปแบบ “วันทีม สมุย”

ซึ่งคณะได้เดินทางมายังโรงพยาบาลเกาะสมุย เพื่อเยี่ยมชมการบริหารจัดการในการฉีดวัคซีน โดยมีนางเกษศิรินทร์ สิจง ประธาน อสม.อำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วยสมาชิก ได้ยื่อหนังสือเพิ่มโค้วรับค่าตอบแทนให้กับสมาชิก อสม.ที่ยังไม่ได้รับอีกจำนวน 109 ราย นายอนุทินได้รับหนังสือ พร้อมรับปากจะดูแลให้ จากนั้นได้ทักทายประชาชนที่มารอเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย ได้กระจ่ายจุดให้บริการครอบคลุมพื้นที่เกาะสมุยจำนวน 4 จุดได้แก่ โรงพยาบาลเกาะสมุย โรงพยาบาลกรุงเทพสมุย วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย โดยนายอนุทินได้ชื่ชมการบริหารจัดการฉีดวัคซีนของเกาะสมุยที่ได้บริหารได้ดีเป็นไปตามเป้าหมาย

จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย เพื่อพบปะกับกลุ่ม อสม.กว่า 300 คน ที่มาให้การต้อนรับพร้อมกล่าวชื่นชม และให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ และ อสม.ทุกคน ที่ทำหน้าที่อย่างดี ซึ่งล่าสุดจากรายงานมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 60% ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ทุกคนบนเกาะจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบ 100% เพื่อให้เกาะสมุยเป็นอำเภอแรกของประเทศไทย ที่มีประชากร ทั้งคนไทย และ คนต่างชาติในพื้นที่ ได้รับวัคซีนครบทุกคน และพร้อมที่จะดูแลเรื่องค่าตอบแทนให้ อสม.ทุกคน ทั้งในภารกิจสกัดกั้นโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และภารกิจการฉีดวัคซีน ซึ่งจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ยังได้ เยี่ยมเยียนผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่เกาะสมุย พบว่า คนกลุ่มนี้ได้รับการดูแลจาก อสม.เป็นอย่างดี แต่ตนเองก็จะกลับไปวางแผนหรือหาแนวทางดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงให้มีคุณภาพชีวิตและเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ดีกว่านี้

ต่อมา นายอนุทิน และคณะได้ประชุมร่วมหน่วยงานต่างๆ จากเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดเกาะสมุยในรูปแบบ สมุย พลัส โมเดล ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ โดยได้ยืนยันก่อนวันเปิดเกาะทุกคนจะได้รับวัคซีนครบตามเป้าที่ตั้งไว้ครบทุกคน

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเปิดเกาะสมุย รับนักท่องเที่ยวในรูปแบบของ สมุย พลัส โมเดล ที่มีขั้นตอนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าอย่าเป็นระบบ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าจะต้องมีหลักฐานยืนยันการได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อภายใน 72 ชั่วโมงด้วยการทำสวอป เทส ที่สำคัญนักท่องเที่ยวจะต้องทำประกันตนเองในวงเงิน 100,000 เหรียญ

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประทานลงนามระหว่างสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรมาให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักได้บริโภค ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนจากการเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยว นายอนุทิน ได้ทำพิธีเปิด สมุย พลัส โมเดล ด้วยการส่งมอบวัคซีนแอสต้าเซเนก้าจำนวน 30,000 โดสให้กับเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ผ่าน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ จากนั้นนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบเสื้อวันทีม สมุย ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากได้ร่วมประชุมพบว่าเกาะสมุยมีความพร้อมโดยพบว่า ประชาชนชาวเกาะสมุยส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ในครั้งนี้ได้นำวัคซีนมามอบให้เพื่อฉีดให้กับประชากรที่เหลืออยู่ไม่กี่คน ซึ่งเกาะสมุยสามารถประกาศได้ว่าเป็นเกาะที่มีความปลอดภัยได้แล้ว สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวก็จะต้องปฏิบัติตามหลักในการปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้คนที่จะเข้าเกาะจะต้องมีความปลอดภัยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวของเกาะสมุยไม่ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด

"ต้องขอชื่นชมเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ที่ได้บริหารฉีดวัคซีนอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้ทั้งสามเกาะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่การท่องเที่ยวจะได้เปิดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่สำคัญก่อนวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ประชากรทั้งสามเกาะจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วหน้า"