เกษตรจังหวัดราชบุรีจัดประชุมแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างเกษตรกรกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงด้วงสาคูหลังเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ทำหนังสือขอคำชี้แจงกรณีการเลี้ยงด้วงสาคู อาจมีผลกระทบผู้ปลูกมะพร้าว
นางดวงสมร พฤฑฒิกุล เกษตรจังหวัดราชบุรี กล่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการเลี้ยงด้วงสาคู ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดว่า มีนายละออ เสร็จกิจ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัด ผู้แทนกรมวิชาการเกษตร เกษตรอำเภอบางแพ เกษตรอำเภอจอมบึง เกษตรอำเภอบ้านโป่ง เกษตรอำเภอดำเนินสะดวก เกษตรอำเภอโพธารามและตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอม นำโดยนายสุชัช สายคสิกร เกษตรกรปลูกมะพร้าว ต.ดอนไผ่ อ.ดำเนินสะดวก และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงด้วงสาคู นำโดย นายอำนาจ บุญสวัสดิ์ เกษตรกรเลี้ยงด้วงสาคู อ.บางแพ และตัวแทนเกษตรกรที่มีการเลี้ยงด้วงสาคู ได้แก่ อ.จอมบึง อ.บ้านโป่ง อ.บางแพ และ อ.ดำเนินสะดวก ร่วมประมาณ 2,069 กะละมัง ครอบคลุมหลายอำเภอของพื้นที่ เพื่อหาแนวทางร่วมกัน
หลังจากที่เครือข่ายอาสาคนรักแม่กลองนำโดยนางอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ทำหนังสือขอคำชี้แจงข้อห่วงกังวลของเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวกับการเพาะเลี้ยงด้วยไฟ หรือด้วยสาคูถึงเกษตรจังหวัดราชบุรี หลังจากที่มีเกษตรกรหลายรายเพาะเลี้ยงด้วงสาคูเสริมรายได้ในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 ทำให้กลุ่มเกษตรที่ปลูกมะพร้าววิตกกังวลถึงการเลี้ยงด้วงสาคูอาจจะส่งผลกระทบถึงการปลูกมะพร้าวในพื้นที่ หากด้วงสาคูหลุดหรือเล็ดลอดออกไปจะไปเจาะทำลายสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวได้ โดยที่ประชุมเกษตรกรที่เลี้ยงด้วงสาคูจำนวน 13 รายมาร่วมหารือพร้อมนำ เอกสารและภาพถ่ายข้อมูลการเลี้ยงตามระบบของแต่ละฟาร์ม มานำเสนอแก่ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรปลูกมะพร้าว เพื่อให้รับทราบการเลี้ยงที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอข้อมูลจำเพาะด้วงสาคู (ด้วงมะพร้าว) วงจรชีวิต ลักษณะการเข้าทำลายพืชอาหาร โดยกรมส่งเสริมการเกษตร การนำเสนอรูปแบบวิธีการเลี้ยงด้วงสาคูที่เหมาะสมและไม่กระทบกับมะพร้าว
สำหรับด้วงงวงมะพร้าว มีชื่อเรียกหลายชื่อตามแต่ละพื้นที่ เช่น ด้วงงวง หรือ ด้วงสาคู ด้วงลาน แมงหวัง เป็นศัตรูพืชที่ทำลายมะพร้าว ซึ่งเป็นเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรปลูกมะพร้าวและประเทศ ขณะเดียวกันด้วงสาคูก็เป็นแมลงเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจำนวนมาก เป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าและกำลังได้รับความนิยมในการบริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะยุคโควิด -19 การเลี้ยงด้วงสาคูกลายเป็นอาชีพที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากการลงทุนน้อย เลี้ยงง่ายได้ผลตอบแทนเร็ว ตลาดต้องการสูง สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้ดี ทำให้มะพร้าวและด้วงสาคู ต่างก็มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน
การทำลายต้นมะพร้าวของด้วงงวง ด้วยการเจาะเข้าในลำต้น และยอดมะพร้าวมักทำลายตามรอยด้วงแรดมะพร้าว โดยจะวางไข่บริเวณบาดแผลตามลำต้นจะเจาะและวางไข่ หรือบริเวณที่ด้วงแรดมะพร้าวเจาะเอาไว้ หนอนที่ฟักออกจากไข่จะกัดกินชอนไชไปในต้นมะพร้าว ต้นมะพร้าวที่ถูกทำลายจะแสดงอาการเฉาหรือยอดหักพับ
สำหรับการเลี้ยงด้วยสาคูของกรมส่งเสริมการเกษตรจะแนะนำให้เกษตรกรเลี้ยงด้วงสาคูในระบบปิด ซึ่งตามวงจรชีวิตด้วงสาคู ประมาณ 150 - 259 วัน จะเลี้ยงในภาชนะที่มีฝาปิด และวางภาชนะภายในโรงเรือนที่มีตาข่ายปิด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวเต็มวัยของด้วงสาคูซึ่งเป็นพ่อแม่พันธุ์ออกมาสู่ภายนอกโรงเรือนได้ รูปแบบบริโภคหรือจำหน่ายด้วงสาคู จะนำระยะตัวหนอนมาบริโภคและจำหน่ายนะระยะเวลาประมาณ 35 - 39 วัน ซึ่งหากเลยระยะเวลาตัวหนอนไปแล้วจะไม่สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้อีก ปัจจุบันด้วงสาคูมีราคาจำหน่ายหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 200 - 250 บาท ซึ่งนับว่าสร้างรายได้และผลตอบแทนแก่เกษตรกรในระยะเวลาสั้นและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศด้วย
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมได้มีการพูดคุยนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ได้แก่ การจัดทำโรงเรือนเลี้ยงด้วงสาคูแบบระบบปิด ที่มีมุ้งหรือตาข่ายกั้น การจัดทำบันทึกการเลี้ยง ได้แก่ บัญชี จำนวนที่เลี้ยงที่จำหน่าย และให้ตั้งส่วนราชการตั้งคณะทำงานติดตาม เฝ้าระวัง และให้คำแนะนำการเลี้ยงที่ถูกต้องแก่เกษตรกรเพื่อให้ผู้เลี้ยงด้วงสาคูและผู้ปลูกมะพร้าว หรือจะเป็นพืชอื่น ๆ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดเป็นคนกลางคอยดูแลไม่ให้เกิดปัญหากันทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติร่วมกัน คือ 1.ให้ความรู้ผู้เลี้ยงด้วงสาคู 2.แต่งตั้งคณะทำงานร่วมระดับจังหวัด และอำเภอ คณะกรรมการประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงและผู้ปลูกมะพร้าว 3.ขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยง 4.เลี้ยงโดยโรงเรือนแบบปิด 5.ผู้ขายพ่อแม่พันธุ์ต้องทำทะเบียนและแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อติดตาม 6.หากเลิกเลี้ยงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่และทำลายด้วงที่เหลือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี