ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้วปะทุอีกรอบ
เจ้าหน้าที่เร่งดับวุ่น
เตือนรัศมี1กิโลฯพื้นที่อันตราย
ห้ามประชาชนกลับเข้าอยู่อาศัย
รอเช็คสภาพน้ำ-อากาศ-สารพิษ
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาร่วม 20 ชั่วโมง คุมเพลิงไหม้โรงงานที่บางพลี จ.สมุทรปราการ กรมควบคุมมลพิษ เร่งตรวจคุณภาพอากาศ-น้ำ หวั่นฝนตกทำสารเคมีปนเปื้อนด้าน ปภ.ส่ง ฮ.บินโปรยโฟมคุมไม่ให้เพลิงปะทุ พบมีบ้านเรือนเสียหาย 100 หลัง ตาย 1 ศพ บาดเจ็บ40 คน นายกฯ ชื่นชมทุกภาคส่วน พร้อมดูแลผู้ได้รับผลกระทบ
เมื่อวันที่ 6กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้และเกิดการระเบิดของสารเคมีที่บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด เลขที่ 87 ซอยกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามในการดับเพลิงเป็นเวลานานกว่า 20 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง หลังจากมีการปะทุขึ้นซ้ำอีกจนเกิดความเสียหายกับโรงงานทั้งหมด รวมทั้งอาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบเป็นบริเวณกว้าง จนต้องมีการประกาศอพยพประชาชนออกจากพื้นที่นอกจากนี้ยังต้องสูญเสียนายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ อายุ 19 ปี อาสาสมัครกู้ภัย ซึ่งเข้าระงับเหตุที่เกิดขึ้น และมีกู้ภัยได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย ว่า เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดโฟมหล่อเลี้ยงในพื้นที่เกิดเหตุตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีก
ต่อมาเวลา 07.15 น.ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกประมาณ 3 ครั้ง พร้อมกับเกิดกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากบริเวณดังกล่าว และระดมฉีดโฟมเพื่อควบคุมเพลิงอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษได้ลงพื้นตรวจสอบปัญหามลพิษในบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเจ้าหน้าที่สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ได้นำโดรนขึ้นบินตรวจสอบความร้อนบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อวัดค่าความร้อน และสำรวจความเสียหายบริเวณโรงงานแห่งนี้
ช่วงสายวันเดียวกัน นายชัยพจน์ จรูญพงษ์ รอง ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวว่าหลังจากเพลิงสงบลง ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ยังคงฉีดโฟมและน้ำหล่อเลี้ยงในที่เกิดเหตุไว้เพื่อป้องกันเพลิงปะทุขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าพื้นที่ดังกล่าวมีอันตรายมากน้อยแค่ไหนก่อนพิจารณาดำเนินการต่อไป สำหรับการจราจรบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุในเบื้องต้นได้ขอปิดการจราจรไว้ชั่วคราวก่อน เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ขณะที่การดูแลบ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้จัดกำลังสายตรวจ ออกตรวจตราบ้านเรือนประชาชนเพื่อป้องกันเหตุมิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้าไปลักทรัพย์ตามบ้านเรือนของประชาชนที่อพยพไปอาศัยตามศูนย์พักพิง และที่พักต่างๆ
เวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานที่เกิดเหตุ ได้ทยอยเข้ารับถุงยังชีพ และเดินทางออกจากศูนย์พักพิงชั่วคราวศูนย์กีฬาบึงหนองบอน เขตประเวศ กทม.หลังจากทราบว่าเพลิงสงบลงแล้ว ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อใช้รองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานดังกล่าว พร้อมกับจัดสิ่งอำนวยความสะดวกมารองรับด้วย ส่วนการกลับเข้าที่พักยังคงต้องรอการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และสารอันตรายในพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที๋โดยรอบ ว่า นายวราวุธศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศและน้ำ รวมทั้งสารอันตรายในรัศมี 1 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษสำหรับสารเคมีที่ต้องระวังคือ สารโซเว้นท์ และสารสไตรีนโมโนเมอร์ องค์ประกอบทำเม็ดพลาสติก ที่มีสารพิษซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นพบว่าคุณภาพอากาศในพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ จึงเตรียมพิจารณาลดพื้นที่ควบคุม เพื่อให้ประชาชนกลับมายังที่พักอาศัยได้ โดยทาง คพ.จะเฝ้าติดตามคุณภาพอากาศ 3 วัน สำหรับสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือฝน หากตกลงมาจะชะสารเคมีลงใต้ดิน แหล่งน้ำ ซึ่งจะยากต่อการควบคุมและการเข้าไปบำบัดเพื่อแก้ไขปัญหา ขณะนี้หากมองด้วยตาเปล่า พื้นที่รัศมี 2 กิโลเมตร ถือว่าอากาศใกล้เคียงกับก่อนเกิดเหตุแล้ว แต่ที่ห่วงคือฝน ถ้าฝนตกจะจัดการปัญหายากขึ้นเพราะสารเคมีจะตกค้างในแหล่งน้ำ และพื้นดิน
นายอรรถพล กล่าวถึงการประเมินความเสียหายเพื่อเรียกร้องกับทางเจ้าของโรงงานที่เกิดเหตุ ว่า คพ.คงต้องประเมินความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ โดยขณะนี้ยังระบุตัวเลขความเสียหายไม่ได้ แต่ก็น่าจะสูงพอสมควร
บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ปภ.ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต ร่วมกับนักบินกองทัพบก ได้นำเฮลิคอปเตอร์ เคเอ-32 ขึ้นบินโปรยโฟมควบคุมเพลิงไม่ให้ปะทุและลดอุณหภูมิพื้นที่เพลิงไหม้โรงงานแห่งนี้ รวม 10 เที่ยวบิน เสริมปฏิบัติการภาคพื้นดิน
ทั้งนี้ ปภ.ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่มูลนิธิร่วมกตัญญูสมุทรปราการ รายงานว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงาน 751 คน ส่วนผลกระทบจากเหตุดังกล่าว มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 100 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 คน ผู้บาดเจ็บ 40 คน ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังการปะทุอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยระยะเร่งด่วน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบเต็นท์ 300 หลัง และของใช้ในชีวิตประจำวัน 300 ชุด จังหวัดสมุทรปราการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือด้านชีวิตความเป็นอยู่ โดยจัดตั้งศูนย์รองรับผู้อพยพ 9แห่ง มีผู้อพยพ 1,992คน
อีกด้านหนึ่ง นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอบคุณและชื่นชม ผวจ.สมุทรปราการ และทุกภาคส่วนทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ ที่ระดมสรรพกำลังคลี่คลายสถานการณ์เพลิงไหม้และการระเบิดที่เกิดขึ้นภายในโรงงานของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอลจำกัด ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการเข้าปิดวาล์วที่เป็นจุดสำคัญของเพลิงไหม้ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี