เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรปราการ ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,361 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 1,258 ราย แยกเป็นอำเภอเมืองสมุทรปราการ 574 ราย อำเภอพระประแดง 188 ราย อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 110 ราย อำเภอบางพลี 236 ราย อำเภอบางบ่อ 57 ราย อำเภอบางเสาธง 93 ราย รับมารักษาต่อในสมุทรปราการจำนวน 103 ราย เสียชีวิต 4 ราย เป็นเพศหญิงทั้งหมด อายุ 58 - 82 ปี
ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนหมู่ 5 ซอยยั่วซ่า ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันตั้งโรงครัวทำข้าวกล่องเข้าแจกจ่ายผู้ติดเชื้อและกักตัวหยุดการแพร่เชื้ออยู่กับบ้าน 50 ครัวเรือนจำนวนกว่า 200 คน นำโดย นายสิทธิ์ปกรณ์ จุลแก้ว หรือผู้ใหญ่เชาว์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ ได้นำทุนทรัพย์ส่วนตัวร่วมกับชาวบ้านที่ร่วมบริจาคทรัพย์มาช่วยในการจัดซื้ออุปกรณ์ในการปรุงอาหารพร้อมทั้งข้าวสาร มาตั้งโรงครัวที่บริเวณลานเอนกประสงค์ชุมชนยั่วซ่า โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่ร่วมเป็นจิตอาสาสมัครใจมาเป็นแม่ครัวในการทำข้าวกล่อง และรถจักรยานยนต์รับจ้างทั้งสองวินในซอยยั่วซ่าที่เป็นจิตอาสามาเป็นกำลังในการกระจายข้าวกล่องไปแจกจ่ายตามบ้านเรือนของประชาชนที่กักตัวเองอยู่กับบ้าน
ผู้ใหญ่เชาว์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ ได้กล่าวว่า ขณะนี้ในหมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ มีผู้ที่กักตัวอยู่กับบ้านจำนวนกว่า 200 คน 40 ครัวเรือน และเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่กักตัวเองอยู่กับบ้านหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ซึ่งเบื้องต้นเราแจกเฉพาะข้าวกลางวันก่อน แต่ถ้าเรามีกำลังเพิ่มจากการบริจาคของชาวบ้านเพิ่มขึ้นที่เห็นความตั่งใจชุมชนของเราเข้ามาร่วมอีกก็จะทำเป็น 2 มื้อคือกลางวันและมื้อเย็น เป้าหมายของเราคือต้องการให้อยู่กับที่หยุดการแพร่เชื้อในหมู่บ้านในชุมชนเราให้เร็วที่สุด
ขณะที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ได้นำสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งประเภท มาม่า ปลากระป๋อง น้ำมันพืชเครื่องปรุงรสและข้าวของอื่นๆ อีกจำนวนมาก มามอบให้แก่โรงครัวของชุมชนหมู่ 5 ซอยยัวซ่า เพื่อนำไปประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่กักตัวอยู่กับบ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของหน่วยงานของรัฐและเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐหยุดการเคลื่อนไหวกักตัวเองอยู่กับบ้านเพื่อหยุดการแพร่เชื้อ
ด้าน น.ส.ปิยนุช พานิชย์พิศาล รองประธานฝ่ายกิจกรรม มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ได้กล่าว่า วันนี้ได้รับการสอบหมายจากประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ให้นำข้าวงสารอาหารแห้งมีไข่และมาม่าปลากระป๋องน้ำมันพืชร่วมทั้งเครื่องปรุงรสในการปรุงอาหารมามอบให้กับโรงครัวของชุมชนหมู่ 5 ซอยยัวซ่า เพื่อนำไปปรุงอาหารแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่กักตัวอยู่กับบ้านหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้ทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ก็ยังได้ออกไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่กักตัวอยู่กับบ้านและได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งขณะนี้กำลังจัดทำถุงยังชีพอีก 2 พันชุดและโครงการมอบถังอ๊อกซิเจนให้กับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่นอนรอเตียงรักษาอยู่ที่บ้าน และต้องการใช้ออกซิเจนในการประครองอาการเราก็จะเอาถังออกซิเจนไปมอบให้พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งขณะนี้มีผู้มีจิตศรัทรามอบถังอ๊อกซิเจนมาแล้วกว่า 10 ถัง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการสมุนไพรให้รับประทานเบื้องต้นระหว่างรอให้ทาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในอาทิตย์หน้า และตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโควิด ทางมูลนิธิเราก็มีการออกฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อให้กับชาวบ้านในพื้นที่มาโดยตลอด และนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทราอยากจะร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ก็สามารถร่วมบริจาคผ่านทางบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสมุทรปราการ เลขบัญชี 224-2-22221-5 ชื่อบัญชี มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ หากท่านต้องการใบเสร็จ สามารถส่งสลิปการโอนเงิน พร้อมเขียน ชื่อ-สกุล และที่อยู่ ของท่านให้ชัดเจนพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ส่งมาที่ Fax. หมายเลข 02-7016317 หรือ E-mail : took_took_99@hotmail.com และไอดีไลน์ LINE: 0822242932
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี