เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 7 ส.ค.64 ร.ต.อ.สราวุธ ชัยชนะกสิกรรม พงส.สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งจาก ร.ต.อ.เจียรศักดิ ยินดี หัวหน้าสายตรวจรถยนต์ว่า เกิดเหตุฆ่ากัน ที่หมู่ที่ 10 ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.ฯ พ.ต.ท.นพรัตน์ มาเมือง รอง ผกก.สอบสวนฯ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ทัศนภูมิ สวป.สภ.หลังสวน หน่วยกู้ภัยหลังสวน หน่วยกู้ภัยสายชลเขตหลังสวน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 166 หมู่ที่ 10 บ้านดินหม้อ ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจากตัว อ.หลังสวน ร่วม 20 กม.ท่ามกลางชุมชนใจกลางภูเขาสูง แวดล้อมไปด้วยสวนผลไม้ ทุเรียน มังคุดจำนวนมาก ในซอยบ้านดินหม้อ เป็นบ้านชั้นเดียว พบว่าที่ประตูบ้านมีร่างของนายคัมภีร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 9 ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร อาชีพรับจ้างคนงานแผงทุเรียนใน อ.หลังสวน นอนตายจมกองเลือดคาประตูบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ข้างศพพบมีดกีวี่สำหรับผ่าทุเรียนหล่นอยู่ พลิกศพเบื้องต้นพบ มีบาดแผลโดนของมีคมที่ศีรษะด้านหลัง มีบาดแผลที่หน้าผาก ที่หน้าอกและ ลำตัว เป็นแผลไม่กว้างใหญ่มาก
ตรวจที่เกิดเหตุพบที่ระเบียงหน้าบ้าน มีกระจกบานเกล็ดแตก เศษกระจกหล่นเกลื่อน ประตูบ้านมีร่องรอยถูกงัด ในบ้านยังพบมีดพร้าและเลือดกองใหญ่ ภายในบ้านมีร่องรอยการต่อสู้ ทั่วทั้งบ้าน รอบๆ บ้านมีชาวบ้านหลายสิบคนรวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านยืนรอตำรวจด้วยสีหน้าตื่นตกใจ มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บชื่อนางวาสนา พุ่มนาค อายุ 48 ปี ถูกปาดด้วยมีดที่คางนำตัวส่ง รพ.หลังสวน แพทย์เย็บบาดแผลมากถึง 10 เข็ม ส่วนที่ด้านหลังบ้านพบนายเจษฏา พุ่มนาค อายุ 18 ปี ลูกชายนางวาสนา ในสภาพร่างกายสะบักสะบอมมีบาดแผลถูกมีดถากที่ด้านหลังบาดเจ็บเล็กน้อย บนฝาโอ่งน้ำข้างบ้านพบมีดทำครัวขนาดเล็กเปื้อนเลือด
สอบถามเบื้องต้นนายเจษฏาให้การว่า เป็นผู้ที่แทงนายคัมภีร์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมไปสอบสวน รวบรวมหลักฐานและปิดที่เกิดเหตุเพื่อรอหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพของนายคัมภีร์ นำส่งชันสูตรที่ รพ.หลังสวน ตรวจสอบบาดแผลและ การติดเชื้อโควิด - 19
พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน สอบถามเบื้องต้นได้การว่า ในเวลา 05.00 น.ในขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังหลับสนิท จู่ๆได้ยินเสียง นายคัมภีร์มาตะโกนและส่งเสียงฟังไม่ได้ใจความพร้อมทั้งเต้น อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน หลังจากนั้นได้ทำลายหน้าต่างกระจกบานเกร็ดจนแตกเสียหาย ในมือถือมีดกีวี่ที่ใช้สำหรับปอกทุเรียนหมอนทอง พยายามปีนหน้าต่างเข้าในบ้านแต่ เข้าไมได้ จึงใช้มีดงัดแงะประตูและพังประตูเข้าในบ้าน ทำเอาคนในบ้านที่อาศัยอยู่ 5-6 คนทั้งผู้สูงอายุ แม่ ลูก สามี พากันหลบในห้องนอนด้วยความกลัว นายคัมภีร์ พยายามเข้าไปทำร้ายนายเจษฏา ลูกชายนางวาสนา ที่วิ่งหนีเข้าไปในครัว นายคัมภีร์วิ่งตามเข้าไป นางวาสนา จึงเข้าขัดขวาง ถูกนายคัมภีร์ ใช้มีดปาดเข้าที่คางเลือดไหลทะลัก ในจังหวะที่นายเจษฏาวิ่งออกมาเพื่อช่วยแม่ จึงเกิดต่อสู้กับนายคัมภีร์ จนนายเจษฏา ใช้มีดทำครัวแทงเข้าที่ร่างของนายคัมภีร์ วิ่งไปล้มลงที่ประตูบ้าน และขาดใจตาย คนในบ้านจึงแจ้งตำรวจ
นายเจษฏาบอกว่า ปกตินายคัมภีร์จะเป็นเพื่อนกับพี่ชายและเคยมาที่บ้านไม่กี่ครั้ง แต่ไมได้สนิทสนม ไม่เคยพูดคุยกันและไม่ทราบสาเหตุที่นายคัมภีร์มาที่บ้านในช่วงเช้ามืดของวันนี้ แต่เมื่อเห็นทำร้ายแม่ก็คว้ามีดในครัววิ่งออกมาช่วยแม่และต่อสู้กัน จนนายคัมภีร์เสียชีวิตก็ไม่รู้ว่าแทงเข้าไปตรงไหนบ้างที่ทำไปเพราะความกลัว และเห็นแม่ถูกทำร้าย พยายามบอกให้นายคัมภีร์หยุดแล้วแต่ไม่ฟัง
ต่อมาได้มีนายวิโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี และนายกรีฑา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี พ่อและพี่ชายของนายคัมภีร์ เดินทางจากบ้านที่ ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ห่างที่เกิดเหตุร่วม 10 กม.มาดูเหตุการณ์ เล่าว่า ไม่รู้นายคัมภีร์มาก่อเหตุเพราะอะไร ทราบเพียงแต่ว่า นายคัมภีร์ ไปทำงานที่แผงทุเรียน แต่นายคัมภีรมีประวัติถูกดำเนินคดี เสพยาเสพติด ถูกคุมประพฤติแต่หนีการคุมประพฤติ เพิ่งกลับเข้าสู่การคุมประพฤติอีกครั้งในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา แต่จู่ๆ ก็ได้รับแจ้งมาเกิดเหตุในครั้งนี้
ต่อมาได้มีผู้นำเอาคลิปเหตุการณ์ที่เห็นว่า นายคัมภีร์อยู่ในอาการยืนตะโกนและรำไปรำมาหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จึงมอบให้ตำรวจเพื่อประกอบสำนวนคดี ตำรวจจะได้สอบสวนรายละเอียดของเหตุการณ์ ส่วนตัวนายเจษฏาก็ต้องสอบปากคำ ก่อนตั้งข้อหาและดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี