นางนันทิยา อุ่นประเสริฐ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) เปิดเผยว่า ปูม้าและปูทะเลจัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื้อมีรสชาติดี ทำให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภค และความต้องการตลาดมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ปูม้าและปูทะเลเป็นสินค้าที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ โดยปีที่ผ่านมา ไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ปูกว่า 4,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 1,800 ล้านบาท มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งปริมาณและมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น

                ขณะนี้ ผลผลิตจากการเลี้ยงปูม้าและการเลี้ยงปูทะเลยังมีคุณภาพและปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่ยังคงอาศัยการจับจากธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคต่อการค้า เช่น ขาดแคลนพันธุ์ปูในบางฤดูกาล ทำให้ไม่สามารถผลิตปูป้อนให้กับตลาดได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี

                “จากปัญหาดังกล่าว มกอช.จึงได้ยกร่างมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่อง แนวปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มเลี้ยงปูม้าและฟาร์มเลี้ยงปูทะเล เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเกษตรกรในการพัฒนายกระดับการเลี้ยงและเพิ่มผลผลิตปูม้า ปูทะเลให้มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการ ทั้งยังได้สินค้าที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค นอกจากนั้นยังเอื้อประโยชน์ต่อการค้าที่เป็นธรรมหรือแฟร์เทรด(Fair Trade) สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้นำเข้า ซึ่งจะเครื่องมือช่วยผลักดันปริมาณและมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ปูของไทยเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต และสามารถช่วยกระตุ้นการบริโภคปูม้าและปูทะเลภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย คาดว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวภายในปี 2556 นี้” รองเลขาธิการ มกอช.กล่าว