นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนัก การจราจรและขนส่ง (สจส.) กล่าวชี้แจงกรณีประชาชนขอให้ กรุงเทพมหานครตรวจสอบและเร่งรัดติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณท้ายซอยบางกระดี่ 14 หน้าอาคารเลขที่ 16(อู่ซ่อมรถ) แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ว่า สจส. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณซอยบางกระดี่ 14เขตบางขุนเทียน เพื่อสำรวจพื้นที่สำหรับติดตั้งกล้อง CCTV ตามคำร้องขอ แต่ไม่สามารถติดตั้งได้เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวคัดค้านการติดตั้ง โดยให้เหตุผลว่ากีดขวางทางเข้า-ออกที่ดิน จึงได้พิจารณาติดตั้งกล้อง ในบริเวณใกล้เคียงจุดที่มีผู้ร้องขอเดิม โดยมีระยะห่างจากจุดเดิมประมาณ 30 เมตร ซึ่งมีความเหมาะสมตามหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาจุดติดตั้งกล้อง CCTV ของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย1.ต้องสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน 2.สามารถบรรจบกระแสไฟฟ้าสาธารณะได้ 3.เป็นพื้นที่สาธารณะ 4.ไม่มีผู้ร้องคัดค้าน และ 5.เป็นจุดที่สามารถสัญจรเข้า-ออกได้หลายทาง เช่นถนนใหญ่ เส้นทางสำคัญ และบริเวณใกล้เคียงจุดติดตั้งดังกล่าวไม่มีกล้อง CCTV

กรุงเทพมหานครได้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ไปแล้วจนถึงเดือนสิงหาคม 2564 มีกล้องรวมทั้งสิ้น จำนวน 63,425 กล้อง มีโครงการที่จะติดตั้งเพิ่มในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เน้นพื้นที่ชุมชนและจุดเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชนในย่านที่พักอาศัยและระหว่างการเดินทาง โดยสจส. ได้ขอจัดสรรงบประมาณติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มในพื้นที่6 กลุ่มเขต รวมจำนวน 2,221 กล้อง ตั้งแต่งบประมาณปี 2564 ซึ่งไม่ได้รับการจัดสรรเนื่องจากข้อจำกัดของงบประมาณที่กรุงเทพมหานครจำเป็นต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และในการขอจัดสรรงบประมาณปี 2565 ที่กำลังพิจารณาอยู่ก็ถูกตัดออก ต้องรอดูว่าจะได้รับการพิจารณาในส่วนงบแปรญัตติหรือไม่ 

ทั้งนี้ นอกจากกล้อง CCTV ใน 6 กลุ่มเขตที่อยู่ในความดูแลของสจส.แล้ว ยังมีกล้อง CCTV ของหน่วยงานอื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร (ข้อมูลปี 2563) อีกจำนวน 8,493 กล้อง ประกอบด้วย สำนักการศึกษา จำนวน 4,825 กล้อง โครงการ BTS จำนวน 2,917 กล้อง โครงการ BRT จำนวน 128 กล้อง และหน่วยงานอื่นๆ จำนวน 623 กล้อง