‘ขอนแก่น’เปิดใช้อาคารสนามบินหลังใหม่ ผู้ว่าฯปลื้มทุกคนเข้มคุมโควิด

5 กันยายน 2564 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จังหวัดขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น และ ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบระบบการให้บริการและระบบรักษาความปลอดภัยการใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ หรือ Terminal 2 ภายหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จมากกว่าร้อยละ 95 จึงทำการเปิดทดลองการใช้งานทั้งระบบ ภายหลังจากที่ ศบค.มีมาตรการผ่อนคลายการเดินทางในระบบคมนาคมขนส่ง ทำให้สายการบินต่างๆกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง

ทันทีที่สายการบินไทยเวียตเจ็ด เที่ยวบินที่ VZ216 ต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติสุวรณภูมิ ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาติขอนแก่น หอบังคับการบินจึงได้มีคำสั่งให้เที่ยวบินดังกล่าวเข้าจอดที่หลุมจอด 1 อาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ทันที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขับสะพานเทียบเครื่องบินเข้าประชิดกับอากาศยานก่อนที่จะทำการนำผู้โดยสารลงจากเครื่องตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่งผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมากับเที่ยวบินนี้ต่างตื่นตาตื่นใจกับการเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของเมืองขอนแก่นในการใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ที่ทันสมัย สวยงาม โอ่อ่า ที่สุดของภาคอีสานตามแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่รัฐบาลได้ผลักดันให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการบินในระดับภูมิภาคที่ชัดเจน

ทั้งนี้ ทุกคนต่างนำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพอาคารผู้โดยสารในมุมต่างๆ ตั้งแต่สะพานเทียบเครื่องบินมาจนถึงจุดตรวจคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิหรือ Termal Gate ที่สนามบินกำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่ทำการกำกับควบคุมแบบเว้นระยะห่างและ ตรวจสอบการลงทะเบียนคิวอาร์โค้ดหรือการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะและการรายงานตัวผ่านระบบที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกำหนดอย่างเข้มงวด

ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดการเดินทางในระบบขนส่งมวลชนโดยเฉพาะที่ด้วยเครื่องบินที่พบว่ากลับมาคึกคักอีกครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือคือวันนี้เป็นประวัติศาสตร์ของเมืองที่เที่ยวบินแรกที่เดินทางมาที่ขอนแก่นและได้ใช้งานกับอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ที่การก่อสร้างเกือบที่จะสมบูรณ์แบบจึงได้ทำการทดสอบระบบต่างๆ ทั้งในส่วนของอากาศยาน การบริการภาคพื้น หอบังคับการบิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆทั้งมาตรานความปลอดภัยทางการบินและการควบคุมสถานการณ์ในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาด ซึ่งทุกฝ่ายได้ดำเนินงานร่วมกันอย่างดีเยี่ยม