นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคลมชัก เกิดจากความผิดปกติของการส่งสัญญาณไฟฟ้าในสมอง ซึ่งมีสาเหตุหลากหลาย พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวัยผู้สูงอายุ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคลมชักกว่า 5 แสนราย กระจายตัวกันอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะผู้ป่วยมีอาการของโรคลมชัก อาจจะมีอาการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของโรคลมชักและจุดกำเนิดในสมอง อาทิ เกร็งกระตุกทั้งตัว เหม่อนิ่งไม่รู้สึกตัว พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงชั่วขณะ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมตนเองขณะมีอาการ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ทั้งต่อตนเอง ต่อทรัพย์สิน
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ อาจจะมีข้อจำกัดในชีวิตอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้ป่วยเอง ต่อทรัพย์สิน และถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมด้วย อุบัติเหตุขณะมีอาการชักเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เรื่องใกล้ตัว เช่น หากมีอาการชักระหว่างกำลังประกอบอาหารอาจจะได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ หรือหากมีอาการชักระหว่างประกอบอาชีพกับเครื่องจักรหรือของมีคม มีโอกาสได้รับบาดเจ็บจากเครื่องจักรและของมีคมได้
แต่อีกหนึ่งปัญหาที่เรายังพบเรื่อยๆ คืออุบัติเหตุจราจร เนื่องจากผู้ป่วยโรคลมชักสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติในช่วงที่ไม่มีอาการ ไปเรียนหนังสือ ไปทำงาน หรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันตามปกติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยาจึงได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภา ดำเนินการปรับปรุงข้อกำหนดในการออกใบรับรองแพทย์เพื่อใช้ในการขอมีใบอนุญาตขับขี่สำหรับผู้ป่วยโรคลมชักขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ที่ต้องการขอมีใบอนุญาตขับขี่ครั้งแรก ต่ออายุ เปลี่ยนชนิด หรือประเภทของใบอนุญาต ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
ฉบับใหม่ที่แพทยสภากำหนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี