ตำรวจไซเบอร์บุกจับหนุ่มเมืองคอน แฮกเฟซบุ๊กยืมเงินผู้เสียหายหลายหมื่นบาท อ้างเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่จนท.ไม่ปักใจเชื่อ

วันที่ 30 ต.ค.64 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผู้กำกับการ 3  กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อขอสนับสนุนการสืบสวนด้านเทคนิค หลังจากนางสาวภัทรานิษฐ์ บัวนาเมือง อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นชาวจังหวัดนครปฐม ถูกคนร้ายแฮ็กบัญชีเฟสบุ๊กส่วนตัว แล้วนำเฟสบุ๊กของผู้เสียหาย หลอกยืมเงินเพื่อนในเฟสบุ๊กของผู้เสียหาย มีผู้เสียหายจำนวน 6 – 7 รายหลงเชื่อโอนเงินจำนวนหลายหมื่นบาท โดยจากการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้คือนายพิพัฒน์ ชูจันทร์  อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/8 ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จึงรวบรวบหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม

จึงได้สั่งการ พ.ต.ท.สฤษดิ์ สอนทา รอง ผกก.นำกำลังตำรวจ พร้อมกับหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 305/2564 ลงวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2566 เข้าจับกุมตัวนายพิพัฒน์ ข้อหา “ เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ,ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และหมายค้นของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 41/2564 ลง 29 ต.ค. 2564 เข้าจับกุมนายพิพัฒน์ ที่บ้านหลังหนึ่ง ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่ผู้ต้องหา ยืนอยู่หน้าบ้าน ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่แสดงตัวพร้อมกับหมายจับ และหมายค้น ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับ และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้ ตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Apple รุ่น iphone xs max สีดำ จำนวน 1 เครื่อง ที่มีการผูกแอปพลิเคชั่นอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขบัญชี 7774888221 ชื่อบัญชีนายพิพัฒน์ ชูจันทร์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบัญชีดังกล่าว เป็นบัญชีที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบสมุดบัญชีธนาคารเพิ่มอีกจำนวน 3 บัญชี จึงยึดไว้ตรวจสอบ

จากการสอบนายพิพัฒน์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เข้าแฮกเฟสบุ๊กบัญชีชื่อ “ ป้ารัศมี ” ซึ่งเป็นของนางสาวภัทรานิษฐ์ ผู้เสียหาย ช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ก่อนใช้เฟสบุ๊กของผู้เสียหาย หลอกยืมเงินจากเพื่อนในบัญชีเฟสบุ๊กจำนวน 6 - 7 ราย โดยการหลอกผู้ต้องหา จะใช้ข้ออ้างสารพัด เช่า เดือดร้อนขอยืมเงิน พ่อแม่ป่วย ลูกไม่สบาย ตกงาน ไม่มีเงิน จนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาจำนวนหลายหมื่นบาท ส่วนเงินที่ที่ได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัว

สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้ จะแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้เล่นเกมออนไลน์ โดยตัวคนร้ายจะออกอุบายว่า ตนเองมีเหรียญเกมฟรี หากมีผู้ใดสนใจให้ติดต่อทักแชท เข้ามาสอบถามได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Facebook กรณีหากมีผู้เสียหายรายใดหลงเชื่อ ทำการติดต่อทักแชทกับคนร้าย เพื่อขอรับเหรียญเกมฟรี คนร้ายจะทำการแฮกเฟซบุ๊กของผู้เสียหายรายนั้นทันที โดยคนร้ายจะหลอกผู้เสียหายว่า จะมีรหัสรับเหรียญเกมฟรี เข้าไปเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหาย ซึ่งรหัสดังกล่าว คือ รหัส OTP ของบัญชีเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย และคนร้ายจะบอกให้ผู้เสียหายแจ้งรหัส OTP ดังกล่าวแก่คนร้าย จากนั้นคนร้ายจะนำรหัส OTP ดังกล่าวไปทำการเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีเฟสบุ๊กของผู้เสียหาย พร้อมทั้งเปลี่ยนแก้รหัสผ่านใหม่ และลบอีเมลที่ผูกไว้กับบัญชีเฟสบุ๊กของผู้เสียหายจนผู้เสียหายไม่สามารถเข้าบัญชีของตนเองได้

จากนั้นคนร้ายจะนำบัญชีเฟสบุ๊กของผู้เสียหายที่หลอกมาได้ นำไปใช้หลอกผู้เสียหายรายอื่นอีกต่อไป ทั้งหลอกให้โอนเงิน และหลอกเอาบัญชีเฟสบุ๊กของผู้เสียหายรายอื่นมาใช้ในการกระทำความผิดครั้งต่อไปอย่างไรก็ตามผู้ต้องหารายนี้ ยังอ้างอีกว่า เพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน หากมีผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกหลอกให้โอนเงินลักษณะแบบนี้ ขอให้แจ้งความเพิ่มเติมได้หรือผู้เสียหายรายใดที่เคยตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพลักษณะแบบนี้ สามารถติดต่อสอบถามเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ กก.3 บก.สอท.5 และฝากเตือนภัยประชาชนอย่าหลงชื่อส่งข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับทางข้อความให้แก่บุคคลใดก็ตามที่ส่งข้อความมาขอข้อมูล และให้โทรศัพท์หาเจ้าของบัญชีเฟสบุ๊คตัวจริง เพื่อยืนยันตัวตนก่อนทุกครั้งที่จะโอนเงิน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ

-001