23 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอร (นามสมมุติ) อายุ 36 ปีชาวจังหวัดเลย ร้องเรียนว่านางสาวนุ่ม (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี ถูกญาติที่มีศักดิ์เป็นลุงเขยข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้งเป็นเวลานานกว่า 1 ปี โดยตนเองทราบเรื่องเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เชียงคานแล้ว
นางอร (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเพิ่งพ้นโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปีครึ่งด้วยข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง โดยที่ไม่รู้ตัวเพราะไปกับเพื่อน เพื่อนถูกจับ จึงโดนคดีไปด้วยเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งตนมีลูก 3 คนคนโตเป็นชายอายุ 21 ปี กำลังเป็นทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ลูกสาวคนกลาง อายุ 15 ปี กำลังเรียนอยู่กศน. และลูกชายคนเล็ก อายุ 5 ปี ส่วนสามีได้แยกทางกันไป 3 ปีแล้ว โดยระหว่างที่ติดคุกอยู่นั้น นางสาวนุ่ม (นามสมมุติ) อยู่บ้านกับน้องชาย ฝากป้าและลุงที่อยู่บ้านใกล้กันช่วยดูแลให้ เมื่อพ้นโทษมาแล้วก็ได้กลับมาอยู่กับลูกทั้งสองคนที่บ้าน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ช่วงกลางคืนตนได้ออกไปทำธุระที่บ้านเพื่อน โดยลูกสาวอยู่บ้านกับลูกชายตนกลับมาถึงประมาณ 5 ทุ่มก็พบว่าประตูห้องลูกสาวเปิดไว้อย่างผิดสังเกต จึงเข้าไปดูพบว่านายมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นลุงเขยหรือสามีของพี่สาว เข้ามาอยู่ในห้องของลูกสาวส่วนลูกสาวอยู่ในห้องน้ำหลังบ้าน เห็นโทรศัพท์วางอยู่บนที่นอนและมีสายเข้าที่ระบุชื่อบนหน้าจอเป็นชื่อป้าหรือพี่สาว ตนก็รับสายและได้ทราบว่าเป็นโทรศัพท์ของลุง ตนจึงได้เรียกป้าให้เข้ามาขณะที่ป้ากำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน
นายมงคล (สงวนนามสกุล) ที่นั่งซ่อนตัวอยู่หลังราวผ้าก็วิ่งออกมาคว้าเอาโทรศัพท์จากมือของตนแล้ววิ่งออกไปนอกบ้านตนจึงได้โทรเรียกน้องชายที่อยู่อีกหมู่บ้านมาช่วยดูเหตุการณ์พร้อมพากันสอบถามจนนายมงคล (สงวนนามสกุล) ยอมรับว่าได้กระทำชำเราลูกสาวของตนเพียง 1 ครั้ง หลังจากนั้นตนก็พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเชียงคาน แพทย์ระบุว่าลูกสาวถูกกระทำชำเราจริงแต่ไม่ใช่ครั้งเดียวตนจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจให้มาจับกุมนายมงคล (สงวนนามสกุล) ซึ่งตำรวจก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ
นางอร (นามสมมุติ) กล่าวต่ออีกว่า ตนจึงได้ถามจากลูกสาวจนยอมรับว่า ถูกนายมงคล (สงวนนามสกุล) ข่มขืนกระทำชำเรามาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่ตนติดคุกได้ 1 เดือน ตั้งแต่ลูกสาวยังเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 14 ปี หลังจากที่แจ้งความกับตำรวจแล้วตนก็พาลูกทั้งสองคนหนีไปอยู่ที่บ้านน้องชายในอีกตำบลหนึ่ง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะนายมงคล (สงวนนามสกุล) ข่มขู่เอาชีวิตห้ามไปแจ้งความ ตอนนี้ยังไม่กล้ากลับไปอยู่บ้านเพราะกลัวมาก นายมงคล (สงวนนามสกุล) มีอาชีพเก็บของเก่าขาย เป็นคนอารมณ์ร้ายมักเสพยาบ้าเป็นประจำ จะกลับไปได้ก็ต่อเมื่อนายมงคล (สงวนนามสกุล) ถูกจับจึงอยากให้ทางตำรวจช่วยเร่งดำเนินการเรื่องนี้ด้วย
ด้านนางสาวนุ่ม (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า หลังจากที่แม่ติดคุกได้ 1 เดือนตนอยู่บ้านกับน้องชาย มีป้าคอยดูแลเลี้ยงดู นายมงคล (สงวนนามสกุล) หรือลุงได้เข้ามาหาตนที่ห้องข่มขู่ให้ร่วมหลับนอนด้วย หากไม่ยอมทำตามจะฆ่าให้ตาย ตนจึงต้องยอมมาโดยตลอด เพราะกลัวและเป็นห่วงน้องชายด้วย ครั้งสุดท้ายที่นายมงคล (สงวนนามสกุล) มาหาที่ห้องก่อนที่แม่จะมาทราบเรื่อง นายมงคล (สงวนนามสกุล) บังคับให้ตนเสพยาบ้าด้วยความกลัว ตนจึงต้องยอมทำตาม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับนางอร (นามสมมุติ) และลูกสาวพบว่าในห้องของลูกสาว มีคราบน้ำอสุจิเปื้อนผ้าปูที่นอนอยู่หลายจุดส่วนนายมงคลไม่พบตัวอยู่ในบ้านที่อยู่ข้างกัน พบเพียงนางสี (นามสมมุติ) ภรรยาของนายมงคล โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายมงคล (สงวนนามสกุล) เดินทางออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564ไปตั้งสติอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัด ยอมรับในความผิดพร้อมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา หากได้รับหมายเรียกไม่หนีไหนแน่นนอน ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีไปทำอะไรกับหลานสาวความรู้สึกขณะนี้เสียใจมากที่สามีทำแบบนี้และสงสารหลานด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี