ชาวนาในเขตภาคกลางกำลังปวดหัวกับการขยายพันธุ์ของฝูงนกพิราบ

นาภาคกลางส่วนใหญ่เป็นนาหว่านน้ำตม ประเภทนาดำเหลือน้อยเต็มทน หรือถึงจะดำก็จะใช้เครื่องจักรปักดำไปแทบหมดแล้ว

นกพิราบเป็นตัวการใหญ่เล่นงานชาวนาในช่วงการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวในนา มันจิกกินเมล็ดข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ได้มาแค่สองสามตัว หากมาเป็นฝูงๆ กินจนกระทั่งชาวนาต้องหว่านเมล็ดพันธุ์อีกรอบ ต้นทุนก็เพิ่มขึ้น เรื่องอย่างนี้กรมการข้าวพอจะระแคะระคายบ้างไหม

นกพิราบเพิ่มจำนวนมาก จนชาวนาต้องหาวิธีการจัดการกับมันด้วยการซื้อหาลูกประทัดใหญ่ เพื่อให้เกิดเสียงดังตูมไล่นก ก็ไล่ได้แค่ชั่วคราว ผละจากนาแปลงนี้ไปสู่นาอีกแปลง เจ้าของนาก็ใช้ประทัดเป็นอาวุธไล่เหมือนกัน มันก็หวนกลับมากินต่อที่แปลงนาเดิม

คนขายประทัดรวย แต่ชาวนาซวย มีต้นทุนเพิ่มขึ้น

นกพิราบเป็นศัตรูชาวนาโดยตรงไปเสียแล้ว ไม่เพียงเมล็ดข้าวที่หว่านเท่านั้นที่มันกิน มันยังกินต้นข้าวอ่อนที่เพิ่งงอกแต่ยังมีเมล็ดติดอยู่ ดังนั้นภัยจากนกพิราบจึงไม่ธรรมดา อธิบดีกรมการข้าวน่าจะหาเวลาลงไปสัมผัสนาและถามปัญหาเรื่องนี้บ้าง เผื่อชาวนาจะเมตตาเล่าให้ฟัง

ช่วงนี้เรื่องหอยเชอร์รี่ ดูทีแล้วชาวนาเบาใจยกใหญ่ ไม่ใช่กรมการข้าวไปจัดการเอาอยู่ก็หาไม่ แต่ธรรมชาติคงเมตตา ส่งนกปากห่างลงมา บรรดาหอยศัตรูต้นข้าวทั้งหลายจึงลงไปอยู่ในท้องนก โดยไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดหอยเชอร์รี่ให้เปลืองเงิน ชาวนาอาจเบาใจ แต่ชาวอื่นอาจไม่ชอบใจนกปากห่าง ดังคนกรุงเทพฯที่นกปากห่างกำลังขยายพันธุ์มโหฬาร ทั้งในนาข้าวชานเมืองและตามหมู่บ้านต่างๆที่นกปากห่างอพยพเริ่มทำตัวเป็นผู้อาศัยถาวร บ้างก็ยึดบึงในหมู่บ้าน บ้างก็ยึดหลังคาบ้าน ต้นไม้เป็นที่สิงสถิต ขี้หรือมูลนกพวกนี้ทั้งใหญ่ทั้งขาวน่าเกลียด เป็นเรื่องที่หน่วยงานไหนไม่ทราบ ต้องพยายามเรียนรู้หาทางแก้ไขแต่เนิ่นๆ

การทำนาปีนี้ เอาเฉพาะนาปีก็ยังกระท่อนกระแท่น พื้นที่นาภาคกลางที่ปกติสมบูรณ์ ด้วยน้ำ ปีนี้ไม่สมบูรณ์เลย ต้องอาศัยน้ำฟ้าเป็นหลัก น้ำชลประทานนั้น คุณปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานกบอ.ท่านกลัวชาวนาจมน้ำตาย เลยสั่งพร่องน้ำซะฉิบหายวายป่วงเหลือไม่ถึงครึ่งอ่าง ใช้ไปแล้วเมื่อนาปรังที่ผ่านมาจนเกือบเกลี้ยงอ่าง พอนาปีขณะนี้ฝนก็ไม่ค่อยมาตามนัด ชาวนาหน้าเหี่ยวเหมือนเคียวยู่ คุณปลอดประสพท่องอยู่อย่างเดียว 3.5 แสนล้านๆๆ น่าจะพาไปสัมผัสตะกอนดินในเขื่อนภูมิพลเสียจริง

แล้งหน้านาปรังที่จะถึงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า สถานการณ์น้ำกำลังบอกชาวนาว่า โปรดเตรียมตัวเตรียมใจแต่ต้นมือเถิด เพราะจะมีแค่น้ำจิ้มให้แย่งกัน ใครไม่ได้ ก็สวดชยันโตคนโตกบอ.ที่สั่งพร่องน้ำในเขื่อนแทนแล้วกัน

กลับมาที่ชาวนา พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว ศัตรูข้าวก็มาแล้ว ทั้งนกและหนู แก้กันยากเย็นใครไม่เป็นชาวนาคงไม่ซึ้งใจกับการผจญชะตากรรมเหล่านี้ อย่างเก่งแค่จับหนูนาไปย่างกินย่างขาย น่าจะลองให้นายกฯยิ่งลักษณ์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์กินหนูนาสักทีดีไหม

ยังๆๆ เท่านี้ยังไม่พอหรอก ชาวนาไทยสมัยใหม่ยังเผชิญความผันผวนเชิงนโยบายจากรัฐบาลเพื่อไทยว่าด้วยราคารับจำนำรอบใหม่ 12,000 บาท/ตันแทน 15,000 บาท

ถ้าไม่ได้ลงพื้นที่ไม่มีวันรู้หรอกว่า ชาวนาคิดยังไงกับราคารับจำนำข้าว เอาไว้สัปดาห์หน้ามาล่อกันถึงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์อีกสักหน

ขอให้รู้ว่า ชาวนาไม่ได้หลอกกันง่ายๆหรอกนะ