เปิดใจ 2 ตร.สภ.ไชยวาน ช่วยเหลือสองแม่ลูกเดินริมถนนทางเปลี่ยนอาสาพาส่งกลับบ้านหลังถูกผัวทิ้งลงข้างถนนและมีเงินติดตัวแค่ 4 บาท ควักเงินส่วนตัวช่วยอีก 200 บาท วันนี้เปิดใจ ตร.พร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่องทุกราว ขณะที่สองแม่ลูกมีญาติรับไปทำงานชัยภูมิแล้ว
จากกรณีเรื่องราวที่น่าประทับใจของตำรวจที่ จ.อุดรธานี โดยเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.65) ขณะที่ พ.ต.ท.ณัฏฐ์ คำก้อน รอง ผกก.ป.สภ.ไชยวาน พร้อม ด.ต.เลิงนาริน ชาวดอน ตร.สายตรวจ สภ.ไชยวาน ออกตรวจเยี่ยมประชาชนและป้องกันเหตุในพื้นที่ต.คำเลาะ แต่ระหว่างทางพบ 2 แม่ลูก ทราบชื่อคือ น.ส.อารีย์ญา ไชยชม อายุ 23 ปี หรือ“แอ๋ว”พร้อมด้วยลูกสาวคือ “น้องแจ๋วแหว๋ว” อายุ 3 ขวบเดินไปตามถนนมุ่งหน้าเข้าอ.ไชยวานตามลำพัง จึงได้สอบถามทราบว่าก่อนหน้านี้ ตนและลูกขี่รถจักรยานยนต์มากับสามีเพื่อพากันไปโรงพยาบาลไชยวานเพราะสามีมีนัดไปรับยาโรคปอดกับหมอ แต่ระหว่างทางได้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง สามีจึงให้ตนและลูกลงจากรถและขับรถไปทาง อ.ไชยวานคนเดียว ตนจึงตั้งใจจะเดินไปหาสามีที่โรงพยาบาล ก่อนที่ตำรวจจะช่วยเหลือพามาส่งที่บ้านคำบอน หมู่ 3 ต.คำเลาะ พบว่ามีเงินติดตัวกันแค่ 4 บาทนั้น ต่อมาตร.ทั้ง 2 นายจึงได้ควักกระเป๋าช่วยเหลือสองแม่ลูก ท่ามกลางเสียงชื่นชมของชาวบ้านนั้น
ต่อมาวันนี้ (12 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ณัฏฐ์ คำก้อน รอง ผกก.ป.สภ.ไชยวาน พร้อม ด.ต.เลิงนาริน ชาวดอน ผบ.หมู่ ป.สภ.ไชยวาน พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเองพร้อมกับ ด.ต.เลิงนาริน ออกตรวจไปทางต.คำเลาะ พอผ่านไปได้ครึ่งทางก่อนจะเข้าบ้านคำเลาะก็พบหญิงสาวพร้อมเด็กเล็กเดินข้างถนนท่ามกลางแดดร้อนๆ จึงให้ลูกน้องจอดก็ไปสอบถามดูจึงรู้ว่าถูกสามีโกรธและทะเลาะกันแล้วทิ้งกับลูกไว้ข้างทาง เห็นดังนั้นก็อาสาไปส่งบ้าน ก็สอบถามว่าเขาทำงานอะไรก็รู้ว่าทำงานรับจ้างทั่วไป และรู้มาอีกว่ามีเงินติดติว 4 ผมให้ไป 100 บาท ลูกน้องก็ให้ไปอีก 100 บาท เราก็ช่วยเหลอได้ตามสภาพ
รองผกก.ป.สภ.ไชยวาน เปิดเผยอีกว่า ถามตรงๆ ถามสักสิบคนไม่รู้จะชอบตร.สักกี่คน เราอยากให้ทุกคนคิดว่าเป็นพี่น้องกัน เราอยู่ใกล้ชิดกันอาจจะกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่อยากให้ประชาชนคิดว่า มีตร.อยากให้ทุกคนอุ่นใจ ตนทำงานเป็น ตร.มา 30 ปีกว่า ระลึกไว้เสมอว่า การบริการให้บริการดุจญาติเลย พิทักษ์ราษฏร์ก็เหมือนครอบครัวเรา มันก็อยู่ในใจตลอด พอมาดูอุดมคติของ ตร.มี 9 ข้อ ข้อ 2 ที่บอกว่ากรุณาปราณีกับประชาชน ฟังแล้วมันอยู่ในใจ เราคิดว่าเราได้ช่วยเขา ถ้าเป็นญาติ มีตร.หรือใครได้ช่วยเหลือแบบนี้ เราก็รู้สึกดี พวกเราทำด้วยความตั้งใจอยากจะทำ การทำงานก็มีหลายด้าน บางคนก็ชื่นชม บางคนก็ตำหนิ ภาพรวมๆ ก็อยากให้ประชาชนศรัทธาเจ้าหน้าที่ตร. พวกเราจะอยู่เคียงคู่ประชาชน คิดว่าอย่างน้อยก็จะมีประชาชนก็เข้าใจ ตร.บ้าง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 3 บ้านคำบอน ซึ่งเป็นบ้านของนายณรงค์ ทองสิงห์ อายุ 24 ปี สามีที่ไล่ภรรยาและลูกน้อยวัย 3 ขวบลงจากรถ แต่ไม่พบใครอยู่บ้าน บ้านปิดประตู สอบถามเพื่อนบ้านบ้านใกล้เรือนเคียงทราบว่า สองแม่ลูกมีญาติมารับไปจ.ชัยภูมิแล้ว ส่วนสามีไม่รู้ไปไหน นางคำปุ่น ภูอาลัย อายุ 44 ปี พี่สะใภ้ของสองแม่ลูกบอกว่า นายณรงค์หรือนายแอร์เป็นน้องของสามี ส่วนน.ส.อารียญา ไชยชม อายุ23 ปีหรือ “แอ๋ว” เป็นคนบ้านอื่นมาแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน ตนเองก็เพิ่งทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่านายแอร์ไล่เมียและลูกออกจากรถขณะจะไปหาหมอที่รพ.ไชยวานสาเหตุทะเลาะกันเมื่อวาน จนตร.จึงนำมาส่ง เขาไม่ค่อยอยู่บ้าน เข้าใจว่าสองผัวเมียนี้เขามีปัญหาเรื่องครอบครัวแต่จริงๆ ต่อนนี้ คือสงสารเด็กคือน้องแจ๋วแหว๋ว ถึงวัยจะเรียนก็ไม่ได้เรียนเพราะพ่อและแม่พาไปตะลอนตลอด แต่ก็ดีใจตร.ดีๆ ก็มีขอชื่นชมตร.ทั้ง 2 คน
ขณะที่นางจันทร์ศรี เจนวิถี อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านและเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว บอกว่า เห็นเมื่อวาน ตร.มาส่งน้องแอ๋ว เขาก็มาเล่าให้ฟังอยู่ว่าถูกสามีไล่ลงจากรถทั้งๆ ที่กำลังจะพาสามีไปหาหมอ สามีเขาป่วยเป็นวัณโรคมีนัดหมอทุกเดือน แต่จะทะเลาะกันเรื่องอะไรไม่รู้จากนั้นสามีเขาก็ไล่เมียและลูกให้เดินเอง จากนั้นบ่ายก็เห็นตร.มาส่งและให้เงินไว้ใช้ด้วยเพราะเห็นว่ามีเงินติดตัว 4 บาท พวกเราสงสารเด็กคือน้องแจ๋วแหว๋ว เด็กถึงวัยเรียนก็ไม่ได้เรียนหนังสือต้องตามพ่อกับแม่ไปตะลอนๆ อยากให้หน่วยงานที่ดูแลเอาพ่อและแม่เขาไปบำบัดก็ดี ลูกเขาจะได้มีอนาคต
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี