ทะเลระยองเริ่มดีขึ้น
จนท.สำรวจต่อเนื่อง
สธ.ไม่พบสารปนเปื้อน
ประมงร้องขอเยียวยา
กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ระดมเจ้าหน้าที่ตรวจคราบปนเปื้อนเหตุน้ำมันดิบรั่ว ลงทะเลระยอง ชี้ทะเลเริ่มคืนสภาพปกติแต่ยังตรวจสอบต่อเนื่อง ส่วน สธ.ยันผลสุ่มตรวจอาหารทะเลไม่พบสารปนเปื้อน ขณะที่ กลุ่มประมงพื้นบ้านที่บ้านเพ หวั่นไร้การเยียวยา โร่ร้อง นายกเทศมนตรี ประสานให้การช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีน้ำมันดิบของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ว่าน้ำทะเลที่ จ.ระยองเริ่มคืนสภาพ โดยศูนย์วิจัย ทช.อ่าวไทยฝั่งตะวันออกตรวจสอบการปนเปื้อนของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนในสิ่งแวดล้อมทางทะเลชายหาดระยอง 6 หาดได้แก่ หาดสุชาดา หาดแสงจันทร์ หาดแม่รำพึง (คลองหัวรถ) หาดแม่รำพึง (ก้นอ่าว) หาดบ้านเพ และหาดสวนสน ผลการสำรวจพบว่าสภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบน้ำมัน
นายโสภณ กล่าวต่อว่า แม้ไม่พบคราบน้ำมันในทะเลและชายฝั่งแล้ว แต่ ทช.ยังสำรวจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนปฏิบัติการสำรวจการปนเปื้อนสารประกอบไฮโดรคาร์บอนในสิ่งแวดล้อมทางทะเลตั้งแต่หาดสุชาดา-บ้านเพ ตรวจสอบผลกระทบต่อสัตว์ทะเล เดินสำรวจคราบน้ำมันที่ชายหาดระยะทาง 2.3 กิโลเมตร ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ส่งเรือตรวจการณ์สำรวจอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ที่เขาแหลมหญ้า หน้าสถานีรายงานอากาศ และหาดแม่รำพึง ส่วนที่ประชุมของศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการฯ ระบุถึงเมือกหรือน้ำที่เป็นฟอง หน้าธงชัยรีสอร์ท ระยะทาง 1 กิโลเมตร เบื้องต้นคาดว่าเป็นคราบน้ำมันผสมสารขจัด ทางกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือได้เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบแล้ว
นอกจากนี้ทีมทำความสะอาดชายฝั่งของบริษัท SPRC ได้ขออนุญาตศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการฯ นำรถขุดหาแผ่นดูดซับน้ำมันที่หาดแม่รำพึง ขึ้นมากำจัดให้หมดและจะขุดพลิกทรายที่ปนเปื้อนมาบำบัด อย่างไรก็ดี ทางศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการฯ เตรียมยุติภารกิจหากขจัดคราบน้ำมันเสร็จสิ้นแล้ว
ด้านนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง พร้อมด้วย นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ระยอง ลงพื้นที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่วไหลลงทะเล หมู่บ้านสบายสบายรีสอร์ท อ.เมือง จ.ระยอง โดยนายอนันต์ กล่าวว่า หลังจากเปิดศูนย์ฯ เป็นวันที่ 4 ยังคงมีผู้ได้รับผลกระทบทยอยเดินทางเข้าร้องทุกข์ ซึ่งมียอดรวมประมาณ 700 รายแล้ว คาดว่าคงมีเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ นพ.สุนทร กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตัวอย่างตรวจสอบอาหารทะเลตามตลาดสดต่างๆ ใน จ.ระยอง ผลการตรวจยังไม่พบว่ามีสารปนเปื้อนจากคราบน้ำมันในอาหารทะเลที่วางจำหน่ายซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยอยากฝากเตือนผู้บริโภคว่าหากพบสัตว์น้ำที่ตายและผู้ที่จับสัตว์น้ำที่มีคราบน้ำมันขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และอย่าเพิ่งนำไปบริโภค
ขณะเดียวกัน ที่โรงเรียนเกาะแก้วพิศดาร เกาะเสม็ด นางสมถวิล จันทร์พราหมณ์ ปลัด อบต.เพ นายสุธน สังข์สุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เกาะเสม็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลจนนักท่องเที่ยวยกเลิกการเข้ามาท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ทำให้ได้รับความเสียหายและความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ทยอยกันเข้ามากรอกเอกสารยื่นขอรับการเยียวยา โดยในช่วงเช้ามีประมาณ 400 คน คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นซึ่งนับเป็นวันแรกของเกาะเสม็ด
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวประมงชายฝั่งประเภทเรือแจว เรือพาย ประมงพื้นบ้านกลุ่มศาลาเขียว ชายหาดเภตรา ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง กว่า 30 คน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรี ต.บ้านเพ เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีขอรับค่าชดเชยเยียวยาจากผลกระทบกรณีน้ำมันดิบของบริษัทเอกชนรั่วไหลลงทะเล เนื่องจากมีความกังวลใจว่าจะไม่ได้รับค่าชดเชยเยียวยาจากเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าว
นายจงกล วรรัตน์ หนึ่งในกลุ่มประมงชายฝั่งพื้นบ้านเรือแจว เรือพาย กล่าวว่า เป็นกลุ่มอาชีพประมงพื้นบ้านชายฝั่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเอาไว้ เพราะเป็นเรือประมงประเภทไม่ติดเครื่องยนต์ ใช้พายหรือแจวออกท้องทะเลเพื่อทำประมงวางลอมปู กุ้ง อวนปลาตามแนวชายฝั่งห่างฝั่งไม่เกิน 5 กิโลเมตร ที่ผ่านมาเมื่อปี 2556 ครั้งที่น้ำมันดิบรั่วในครั้งนั้นกว่าที่พวกตนจะได้รับเงินค่าชดเชยต้องเรียกร้องและฟ้องร้องจึงจะได้รับเงินเยียวยา นอกจากนี้ยังยืนยันว่าพวกตนเป็นกลุ่มประมงชายฝั่งพื้นบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมที่ทำประมงชายฝั่งมานานกว่า 60 ปี แต่เนื่องจากเป็นประมงชายฝั่งที่ใช้เรือขนาดเล็กและไม่มีเครื่องยนต์ จึงกังวลใจว่าจะเข้าข่ายที่จะได้รับค่าชดเชย จึงได้ฝากให้นายกเทศมนตรีบ้านเพ ซึ่งรู้ความจริงลักษณะการทำอาชีพของพวกตนได้ให้การช่วยเหลือ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนไม่แตกต่างไปจากกลุ่มอาชีพอื่นเช่นกัน หลังจากถูกสั่งห้ามออกทำประมงจับสัตว์น้ำเป็นเวลา 1 เดือน
ส่วนนายธวัช เจนการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า ในช่วงเย็นวันที่ 1กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงดำน้ำตรวจใต้ทะเลอ่าวพร้าว และพื้นที่ของอุทยานฯ พบว่า หญ้ามะกรูด ปะการัง สัตว์ทะเล ยังไม่พบคราบน้ำมัน ยังคงสภาพสมบูรณ์ตามปกติ สำหรับคราบสีดำที่พบบ้างบนหาดทราย คาดว่าน่าจะมาจากเรือที่ใช้ปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันในช่วงเกิดเหตุ ซึ่งต้องใช้เรือหลายลำจึงมีคราบเขม่า แต่ได้เก็บกู้จนหาดทรายสะอาดปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี