ชุดเหยี่ยวดงวางแผนจับกุมหนุ่มทำเครื่องดนตรี ลักลอบขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊ก มีทั้งนกกระรางหัวขวาน เหยี่ยวขาว นกแสก รวม 7 ตัว และอุปกรณ์การกระผิดอีกจำนวนหนึ่ง สอบขยายผลตามไปยึดที่บ้านได้อีก  9 ตัว สารภาพสั่งซื้อทางออนไลน์หวังมาฟันกำไรอีกต่อหนึ่ง

10 กุมภาพันธ์ 2565 นายนาวี ช้างภิรมย์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า จากการดำเนินการตรวจสอบการลักลอบค้าสัตว์ป่าทางอินเตอร์เน็ต พบว่ามีการโฆษณาหรือประกาศจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง หลายชนิด เช่น เหยี่ยวขาว เหยี่ยวแดง กระรางหัวหงอก เป็นต้น ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว และสืบทราบว่าจะนัดรับส่งสินค้าสัตว์ป่า บริเวณริมถนนหน้าบิ๊กซีวงศ์สว่าง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าว ได้พบชาย 1 คน ซึ่งมีหน้าตาตรงตามที่ปรากฏในเฟซบุ๊กดังกล่าวข้างต้น เดินถือกล่องกระดาษใส่นก จำนวน 3 กล่อง

เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวเพื่อจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าว พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกนก ประกอบด้วย นกกระรางหัวขวาน จำนวน 4 ตัว เหยี่ยวขาว จำนวน 1 ตัว นกแสก จำนวน 2 ตัว (รวม 3 ชนิด 7 ตัว)และอุปกรณ์การกระผิดอีกจำนวนหนึ่ง และยังได้ขยายผลไปที่บ้านของชายดังกล่าวซึ่งอยู่บริเวณซอยตรอกปูนขาว แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พบสัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มเติม เป็น นกกระรางหัวขวาน จำนวน 5 ตัว นกเค้าจุด จำนวน 4 ตัว (รวม 2 ชนิด 9 ตัว) (รวมสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางที่ตรวจยึดทั้งสองจุด ทั้งสิ้นจำนวน 4 ชนิด 16 ตัว)

ผู้ต้องหาให้ถ้อยคำว่า ตนเองมีอาชีพทำเครื่องดนตรี ได้ซื้อสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางดังกล่าว มาจากเฟซบุ๊ก ซึ่งจำชื่อไม่ได้ แล้วนำมาโพสต์ขายทางเฟซบุ๊กของตนเอง เพื่อหวังกำไร ซึ่งนกดังกล่าวไม่มีหลักฐานการอนุญาตให้ค้า ครอบครอง และเพาะพันธุ์ จากทางราชการและไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (ห่วงขา) แต่อย่างใด

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าว มีความผิดมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562จึงควบคุมตัวเป็นผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวข้าวต้น พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดได้ส่งมอบให้กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับไปดูแลต่อไป

ขอบคุณข้อมูลเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช