4 มี.ค.65 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.อธ. 1/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และพวกรวม 14 ราย เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11
ล่าสุด องค์คณะชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์พิพากษาเเก้โทษริบทรัพย์นายวัฒนา จำเลยที่ 1,4,5,6,7,8 เเละ 10 ร่วมชดชดใช้เงิน 89 ล้าน ในส่วนอาญา อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืนจำคุก 99 ปี จำคุกจริง 50 ปีตามกฎหมาย และเตรียมนำตัวเข้าเรือนจำทันที
คดีนี้เกิดขึ้นในยุคนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเริ่มตรวจสอบการกระทำผิดในช่วงของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก่อนเปลี่ยนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนต่อ กระทั่งปี 2560 ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา พร้อมกับพวกอีก 14 คน กรณีทุจริตเรียกรับสินบนจากบริษัท พาสทิญ่า จำกัด ผู้รับเหมาโครงการบ้านเอื้ออาทร ผ่านบริษัทและลูกจ้างบริษัท เพรซิเด้นท์เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 82.6 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติในการเข้าเป็นคู่สัญญากับการเคหะแห่งชาติ แต่ได้มีการจ่ายสินบนเพื่อให้สามารถเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐได้ โดยหลังจาก ป.ป.ช.ส่งสำนวนให้อัยการ ปรากฏว่า อัยการพบความไม่สมบูรณ์ในสำนวน จึงต้องตั้งคณะกรรมการร่วมทั้ง 2 ฝ่ายขึ้นมาพิจารณา สุดท้ายอัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งฟ้องนายวัฒนากับพวกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ต่อมาวันที่ 24 ก.ย. 63 ศาลฎีกาฯ พิพากษาว่าพวกจำเลยร่วมกันกระทำผิดจริง โดยนายวัฒนา จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามมาตรา 148 รวมความผิด 11 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 9 ปี รวมจำคุก 99 ปี และจำคุกเสี่ยเปี๋ยง หรือนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 66 ปี แต่ตามกฎหมายให้จำคุกได้สูงสุด 50 ปี จำคุกน.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 20 ปี น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 44 ปี จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 32 ปี ปรับจำเลยที่ 8 จำนวน 2 แสนกว่าบาท และจำคุกนายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงศ์เรืองรอง จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 4 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 2, 3, 9, 11-14
ต่อมานายวัฒนา ได้อุทธรณ์คดี ในชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ของศาลฎีกาฯ และได้แถลงปิดคดีด้วยวาจายืนยันว่าสำนวนการสอบสวนคดีนี้ มีความผิดปกติหลายประเด็น และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายอภิชาติที่แอบอ้างชื่อตัวเองไปเรียกรับผลประโยชน์กับบริษัทเอกชน อีกทั้งปปง.ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วไม่พบความผิดปกติ ซึ่งศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 4 มี.ค.ดังกล่าว ขณะที่นายอริสมันต์ หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา และศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี